เจาะลึก! เบื้องหลังที่คาดไม่ถึง “ทำไม อีลอน มัสก์ ถึงซื้อ Twitter” ?

ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ข่าวสุดฮอตที่นักลงทุนทั่วโลกต่างจับตามองคงหนีไม่พ้นกับข่าวที่ว่า “อีลอน มัสก์ เข้าซื้อ Twitter” ซึ่งการเข้าซื้อในครั้งนี้ก็ได้เกิดเหตุการณ์มากมาย จนทำให้ตลาดหุ้นต้องปั่นป่วนจากพฤติกรรมของเขา ไม่ว่าจะเป็นการฟ้องร้องหรือการยกเลิกดีล แต่ผลสุดท้ายศาลก็บังคับให้ อีลอน มัสก์ ต้องทำตามสัญญาที่ได้ลงชื่อไว้ มิเช่นนั้นจะต้องเสียค่าปรับ และเขาก็ได้กลายเป็นเจ้าของ Twitter อย่างเต็มตัวในที่สุด

เบื้องหน้าที่หลายคนเข้าใจเกี่ยวกับการเข้าซื้อ Twitter ของ อีลอน มัสก์

หลายคนเข้าใจว่า การเข้าซื้อ Twitter ในครั้งที่เป็นเพียงวิธีที่เศรษฐีอยากเอาชนะการจำกัดการออกความคิดเห็นในแพลตฟอร์ม โดยก่อนที่เขาจะตัดสินใจเข้าซื้อ Twitter เขาได้มีการทวีตข้อความบางอย่างลงในบัญชีส่วนตัวของตนเอง

อีลอน มัสก์ มีการจัดโพลในทวิตเตอร์ส่วนตัวของเขาเกี่ยวกับ “เชื่อหรือไม่ว่าทวิตเตอร์ปฏิบัติตามเสรีภาพในการพูด” เเล้วผลสำรวจออกมากว่าร้อยละ 70% ที่ “ไม่เชื่อ” ทำให้ในเริ่มแรกเขาได้เข้าซื้อหุ้นที่ 9.2% และหลังจากนั้นก็มีการดีลซื้อ Twitter อย่างเต็มรูปแบบ เพื่อที่ต้องการเปลี่ยนรูปแบบให้ทุกคนสามารถแสดงความคิดเห็นอย่างไรก็ได้ในแพลตฟอร์มตราบใดที่ไม่ได้ผิดกฎหมาย

แม้เบื้องหน้าจะดูเหมือนเป็นเช่นนั้น แต่ไม่มีใครสามารถทราบได้ว่า แท้จริงแล้ว อีลอน มัสก์ เข้าซื้อ Twitter เพื่ออะไร นอกจากนี้ การที่เขาเป็นคนฉลาด และยังเป็นเจ้าของกิจการใหญ่ ๆ มากมาย พฤติกรรมนี้คงไม่ใช่แค่การอยากเอาชนะ เบื้องหลังการตัดสินใจครั้งใหญ่นี้อาจมีเหตุผลสำคัญซ่อนอยู่ หรือนี้เป็นแค่หมากเกมหนึ่งที่เขาจะใช้ผลักดัน Tesla

เปิดโปงเบื้องหลัง “ทำไม อีลอน มัสก์ ถึงซื้อ Twitter” ?

ทราบหรือไม่ ? ปัจจุบัน Tesla ไม่ได้จ่ายค่าโฆษณาสักบาท

ในขณะที่ค่ายอื่น ๆ ต้องเสียค่าใช้จ่ายตรงนี้ในจำนวนที่มหาศาลต่อปี โดยหากคิดแค่ในเฉพาะสหรัฐฯ

• Ford มีการจ่ายค่าโฆษณาถึง $3.1 พันล้าน
• GM มีการจ่ายค่าโฆษณาถึง $3.3 พันล้าน

และหากนำทุกค่ายรวมกันจะอยู่ที่ประมาณ $12 พันล้าน หรือคิดเป็นคันละ $800 และหากนำ $800*จำนวนรถของ Tesla จะอยู่ที่ประมาณ $72 พันล้าน ซึ่งเป็นมูลค่าที่สูงมาก แต่ Tesla กลับไม่มีค่าใช้จ่ายตรงนี้เลย

อีลอน มัสก์ ใช้ Twitter เป็นพื้นที่โฆษณา Tesla ชั้นเยี่ยม!

ผู้ติดตามใน Twitter ส่วนตัวของ อีลอน มัสก์ มีมากถึง 122.4 ล้านคน ซึ่งมาจากทั่วทุกมุมโลก และกลุ่มคนนี้ คือ พื้นที่โฆษณาชั้นดีที่สามารถส่งตรงถึงสมาร์ทโฟนของแต่ละคนแบบไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ ซึ่งค่ายอื่นไม่สามารถทำแบบนี้ได้ ด้วยสาเหตุนี้ส่งผลให้ Tesla ไม่จำเป็นต้องทำการโฆษณาหรือยิงแอดเหมือนค่ายอื่น และนำค่าใช้จ่ายส่วนนั้นไปทำอย่างอื่น เพื่อพัฒนาระบบและการใช้งาน

อดีต CEO บริษัทที่เป็น Supplier ให้กับ Tesla กล่าวว่า หากจำนวนผู้ติดตามใน Twitter ของ อีลอน มัสก์ ซื้อรถเพิ่มอีก 20,000 คัน ในราคาคันละประมาณ $50,000 เขาจะสามารถสร้างรายได้เพิ่มผ่านทวิตเตอร์ของเขาอีกกว่า $1,000 ล้าน หากตีความหมายง่าย ๆ บัญชี Twitter ส่วนตัวของ อีลอน มัสก์ มีมูลค่าถึง $1,000 ล้าน นั่นเอง

อีกทั้ง การที่ อีลอน มัสก์ มีการอัพเดต Twitter หรือสร้างกระแสให้กับบริษัทของเขาอยู่ตลาดนั้น สามารถดึงดูดคนเก่ง ๆ ให้อยากมาทำงานร่วมกับเขาได้ เนื่องจากกระแส Social Media ที่กำลังมาแรงในปัจจุบันนี้ การที่บริษัทมี CEO ที่เข้าถึงง่าย จะทำให้มีพนักงานอยากทำงานด้วยมากยิ่งขึ้น ซึ่งการที่มีคนเก่งเข้ามาทำงานจะเป็นประโยชน์แก่บริษัทในอนาคต

นอกจากนี้ อย่างที่ทราบกันดีว่า อีลอน มัสก์ มักจะถูกจับตามองจากทางรัฐบาลและสถาบันต่าง ๆ ซึ่งเขาชอบแสดงความคิดเห็นที่ตรงไปตรงมาผ่านสื่อ Social Media ทำให้บัญชีส่วนตัวของเขาเสี่ยงถูกปิด และหากมันเกิดเหตุการณ์เช่นนั้นแน่นนอนว่า ทั้ง Tesla และ SpaceX ต้องเสียหายอย่างมหาศาล และวิธีการป้องกันที่ดีที่สุด คือ อีลอน มัสก์ ต้องเป็นเจ้าของ Twitter ซ่ะเอง

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้การที่ อีลอน มัสก์ ขายหุ้น Tesla เพื่อไปซื้อ Twitter จะเป็นปัจจัยที่กดดันราคาหุ้นในระยะสั้น แต่หากคิดให้ลึกซึ้งลงไป การซื้อ Twitter ของ อีลอน มัสก์ กลับให้ผลดีต่อ Tesla ในทางอ้อม โดยเป็นเหมือนการซื้อช่องทางการสื่อสาร และการโฆษณาให้กับบริษัทที่หลายคนอาจคิดไม่ถึง นอกจากนี้ ราคาที่เขาทำการซื้อ Twitter มาอาจไม่ได้แพงนัก หากเทียบกับความคุ้มค่าของมันที่เป็นเหมือนส่วนลดการจ่ายค่าโฆษณาให้กับบริษัทอย่างน้อย 4 ปี

Source: ทีมงาน Traderbobo

อ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่: Traderbobo

อ่านรีวิวโบรกเกอร์เพิ่มเติมได้ที่: Review Broker