เมื่อเช้าวันนี้ ตลาดหุ้นเอเชียแปซิฟิกส่วนใหญ่ปรับตัวขึ้น แม้ว่าข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุดของจีนจะไม่เป็นไปตามที่หวัง ในขณะนี้ตลาดแรงงานมีการฟื้นตัวขึ้น หลังเฟดเริ่มลดมูลค่าสินทรัพย์และขึ้นอัตราดอกเบี้ย นักลงทุนจึงให้ความสำคัญกับรายงานการจ้างงานเเละการจ้างงานนอกภาคการเกษตรในสหรัฐฯ เป็นอย่างมาก ซึ่งคาดว่าจะได้เบาะแสเกี่ยวกับนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในอนาคต
สำหรับตลาดหุ้นเอเชียที่ปรับตัวขึ้น
ด้านออสเตรเลีย ASX 200 เพิ่มขึ้น 0.48% หลังจากการเปิดเผยข้อมูล ยอดค้าปลีก เมื่อต้นวัน
KOSPI ของเกาหลีใต้เพิ่มขึ้น 0.46%
ของจีนขยับขึ้น 0.14% เมื่อเวลา 21:51 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก (1:51 น. GMT) ขณะที่ ดัชนีองค์ประกอบ SZSE ทรงตัวที่ 14,277.34 ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อบริการของ Caixin (PMI) สำหรับเดือนสิงหาคมอยู่ที่ 46.7ซึ่งต่ำกว่าเกณฑ์บ่งชี้มาตรฐานการเติบโตที่ 50
Nikkei 225 ของญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น 0.37% โดย ดัชนีภาคบริการ PMI ของประเทศญี่ปุ่นอยู่ที่ 42.9 ในเดือนสิงหาคม
ดัชนีฮั่งเส็ง ของฮ่องกงลดลง 0.86%
สะท้อนให้เห็นถึงความสงบของตลาด ซึ่งขณะนี้ยังมีความเสี่ยงต่อการกลับมาเปิดเศรษฐกิจอีกครั้งจากการระบาดของ COVID-19 ในสายพันธุ์เดลต้า และนโยบายการเงินที่อาจหดตัวลง
ด้านเศรษฐกิจ
ราฟาเอล บอสติก ประธานแอตแลนตา กล่าวในนามของเฟดว่า “เราจะปล่อยให้เศรษฐกิจดำเนินต่อไปจนกว่าเราจะเห็นสัญญาณของเงินเฟ้อ” ก่อนขึ้นอัตราดอกเบี้ย ในขณะเดียวกันมีการอภิปรายทางการเมืองเกี่ยวกับแผนงบประมาณของสหรัฐ วุฒิสมาชิก Joe Manchin ต้องการให้ “หยุดเชิงกลยุทธ์” ในการดำเนินการตามวาระทางเศรษฐกิจของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นอันตรายต่อภาษี และการอัดฉีดกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่า 3.5 ล้านล้านดอลลาร์
สำหรับภาพรวมของตลาดหุ้นเอเชียในตอนนี้ ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่น่าลงทุน เเต่ด้วยความเเพร่ระบาดของ Covid-19 สายพันธุ์เดลต้า เเละบางประเทศในเอเชียยังไม่มีการจัดสรรวัคซีนให้เพียงพอเเก่ประชาชน เราคงต้องจับตาดูกันต่อไปในเรื่องของการจัดการวัคซีนของรัฐบาลต่อไป ว่าในอนาคตจะมีการเปลี่ยนเเปลงหรือไม่