ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดร่วงลงกว่า 400 จุด ในวันจันทร์ (11 เม.ย.) หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ พุ่งขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยฉุดหุ้นเติบโต (Growth Stocks) ก่อนที่สหรัฐฯ จะเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อในวันนี้
Dow Jones -1.19%
S&P500 -1.69%
Nasdaq -2.18%
อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี พุ่งขึ้นเหนือระดับ 2.79% เมื่อคืนนี้ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือน ม.ค. 2562 ท่ามกลางความวิตกกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) จะเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ โดยคาดการณ์ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมทั้งในเดือน พ.ค. และ มิ.ย. รวมถึงอัตราดอกเบี้ยจะแตะระดับ 2.50-2.75% ในช่วงสิ้นปีนี้ ซึ่งจะสูงกว่า 2.4% ซึ่งเป็นระดับกลาง
ความวิตกกังวลเกี่ยวกับการเร่งปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟด เป็นปัจจัยฉุดหุ้นเติบโตให้ร่วงลง เนื่องจากเป็นหุ้นที่อ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ย รวมถึงหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและการสื่อสาร โดยหุ้นแอมะซอน ร่วงลง 2.16% หุ้นเมตา แพลตฟอร์มส ดิ่งลง 2.64% หุ้นไมโครซอฟท์ ร่วงลง 3.94% หุ้นเน็ตฟลิกซ์ ร่วงลง 2.21% หุ้นแอปเปิล ดิ่งลง 2.55% เเละหุ้นอัลฟาเบท ร่วงลง 3.35%
หุ้นเทสลา ร่วงลง 4.83% หลังนายอีลอน มัสก์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทเทสลา อิงค์ และบริษัทสเปซเอ็กซ์ ตัดสินใจไม่เข้าร่วมเป็นกรรมการในบอร์ดบริหารของบริษัททวิตเตอร์
หุ้นกลุ่มธุรกิจบล็อกเชนดิ่งลง หลังราคาบิตคอยน์ร่วงหลุดจากระดับ 40,000 ดอลลาร์ เป็นครั้งแรกเมื่อคืนนี้ โดยหุ้น Coinbase ดิ่งลง 4.39% หุ้น Riot Blockchain ร่วงลง 4.62% หุ้น Silvergate Capital ร่วงลง 3.58% เเละหุ้น Marathon Digital ร่วงลง 3.35%
ในส่วนของหุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลง หลังจากราคาน้ำมัน WTI ดิ่งหลุดจากระดับ 95 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยหุ้นโคโนโคฟิลลิปส์ ร่วงลง 4.91% หุ้นเอ็กซอน โมบิล ดิ่งลง 3.49% หุ้นฮัลลิเบอร์ตัน ร่วงลง 2.15% เเละหุ้นเชฟรอน ร่วงลง 2.61%
อย่างไรก็ตามการร่วงลงของราคาน้ำมันเป็นปัจจัยหนุนหุ้นกลุ่มสายการบิน โดยหุ้นอเมริกัน แอร์ไลน์ ดีดตัวขึ้น 2.29% หุ้นเดลต้า แอร์ไลน์ ทะยานขึ้น 3.96% เเละหุ้นยูไนเต็ด แอร์ไลน์ ปรับตัวขึ้น 1.10%
ตลาดหุ้นยุโรป ปิดลดลงในวันจันทร์ (11 เม.ย.) นำโดยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีซึ่งร่วงลง 2.2% โดยถูกกดดันจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่ปรับตัวขึ้น และตลาดปรับตัวผันผวน ท่ามกลางความไม่แน่ใจเกี่ยวกับผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศส เนื่องจากคะแนนนิยมในการเลือกตั้งรอบแรกเป็นไปอย่างสูสีกันระหว่างประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง และนางมารีน เลอเปน
Stoxx Europe 600 -0.59%
CAC-40 +0.12%
DAX -0.64%
FTSE 100 -0.67%
หุ้นกลุ่มธนาคารของยูโรโซนโดยรวมปรับตัวขึ้นสวนทางตลาด โดยได้แรงหนุนจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่พุ่งขึ้นก่อนสหรัฐฯ เปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อและก่อนธนาคารกลางยุโรป (ECB) ประชุมนโยบายการเงินในสัปดาห์นี้
อีกทั้งตลาดยังปรับตัวรับโอกาสที่ ECB จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.70% ภายในสิ้นปีนี้ เมื่อเทียบกับ 0.65% ที่คาดไว้เมื่อวันศุกร์ที่แล้ว
สำหรับหุ้นรายตัวที่ร่วงลง รวมถึงหุ้นโนเกียน ไทร์ส ผู้ผลิตยางรถยนต์ของฟินแลนด์ ซึ่งร่วงลง 15.5% หลังเปิดเผยว่า มาตรการคว่ำบาตรครั้งใหม่ที่สหภาพยุโรปกำหนดต่อรัสเซีย จะส่งผลกระทบอย่างมากต่อการผลิตของบริษัท
นักลงทุนจับตากระทรวงแรงงานสหรัฐฯ จะเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภคในวันนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ดัชนี CPI เดือน มี.ค. จะพุ่งขึ้น 8.5% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2524
ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่น ๆ ที่จะมีการเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือน มี.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ยอดค้าปลีกเดือน มี.ค., ราคานำเข้าและราคาส่งออกเดือน มี.ค. และการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือน มี.ค.