Market Watch จับตาดูโลก ประจำวันที่ 13 พฤษภาคม 2565

Table of Contents

▪ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดลบติดต่อกันเป็นวันที่ 6 ในวันพฤหัสบดี (12 พ.ค.) ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน เนื่องจากนักลงทุนยังคงกังวลว่า ตัวเลขเงินเฟ้อที่สูงเกินคาดอาจจะผลักดันให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

Dow Jones -0.33%

S&P500 -0.13%

Nasdaq +0.06%

ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นสหรัฐฯ เป็นไปอย่างผันผวน โดยดัชนี Dow Jones และ S&P500 เคลื่อนไหวในแดนบวกและลบเกือบตลอดทั้งวัน ก่อนที่จะปิดตลาดลดลง เนื่องจากนักลงทุนยังคงกังวลว่า เฟดจะเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหลังจากตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐพุ่งขึ้นสูงกว่าคาด

หุ้น 5 ใน 11 กลุ่มที่คำนวณในดัชนี S&P500 ปิดในแดนลบ โดยหุ้นกลุ่มสาธารณูปโภคร่วงลงหนักสุด ทั้งนี้ หุ้นพีจีแอนด์อี คอร์ปอเรชั่น ดิ่งลง 3.74%, หุ้นดุ๊ค เอนเนอร์จี ลดลง 0.89% เเละหุ้นเอ็กเซลอน คอร์ปอเรชั่น ร่วงลง 3.03%

หุ้นแอปเปิล ร่วงลง 2.69% ปิดที่ระดับ 142.56 ดอลลาร์ ส่งผลให้มูลค่าตลาดของบริษัทแอปเปิลลดลงมาอยู่ที่ 2.31 ล้านล้านดอลลาร์ และทำให้แอปเปิลเสียตำแหน่งบริษัทที่มีมูลค่าตลาดอันดับหนึ่งของโลกให้กับซาอุดีอารามโค ซึ่งเป็นบริษัทพลังงานรายใหญ่ของซาอุดีอาระเบีย

หุ้นวอลท ดิสนีย์ ปรับตัวลง 0.92% หลังบริษัทเปิดเผยจำนวนสมาชิกที่ใช้บริการสตรีมมิงดิสนีย์พลัส (Disney+) ทั่วโลกเพิ่มขึ้น 7.9 ล้านคนในไตรมาส 2/2565 แตะที่ระดับ 137.7 ล้านคน แต่บริษัทระบุว่า ธุรกิจสวนสนุกของดีสนีย์ในเอเชียได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

ในส่วนของหุ้นกลุ่มเฮลธ์แคร์ดีดตัวขึ้น โดยหุ้นแอ๊บบอต ลาบอแรตอรีส พุ่งขึ้น 2.01%, หุ้นเมอร์ค แอนด์ โค พุ่งขึ้น 1.84%, หุ้นโนวาแวกซ์ ทะยานขึ้น 11.79%, หุ้นโมเดอร์นา พุ่ง 5.46% เเละหุ้นไฟเซอร์ พุ่งขึ้น 2.73%

หุ้นบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ปรับตัวขึ้นเช่นกัน โดยหุ้นเน็ตฟลิกซ์ พุ่งขึ้น 4.77%, หุ้นเมตา แพลตฟอร์มส ดีดขึ้น 1.32% เเละหุ้นแอมะซอน พุ่งขึ้น 1.48%

▪ ตลาดหุ้นยุโรป ปิดลดลงในวันพฤหัสบดี (12 พ.ค.) โดยหุ้นส่วนใหญ่ที่ปรับตัวตามภาวะเศรษฐกิจปรับตัวลง หลังจากสหรัฐฯ เปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อที่สูงเกินคาด ซึ่งทำให้เกิดความวิตกเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น และผลกระทบต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจ

Stoxx Europe 600 -0.75%

CAC-40 -1.01%

DAX -0.64%

FTSE 100 -1.56%

ตลาดปรับตัวลง เนื่องจากนักลงทุนคาดว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากขึ้นหลังเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ชะลอตัวลงในเดือน เม.ย. แต่ยังคงสูงกว่าที่บรรดานักเศรษฐศาสตร์คาดไว้

ความวิตกเกี่ยวกับการคุมเข้มนโยบายการเงิน, การชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน และเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้น ทำให้เกิดความวิตกเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย ซึ่งฉุดดัชนี STOXX 600 ลง 6.7% แล้วในเดือน พ.ค. นี้

นอกจากนี้ ตลาดยังวิตกเกี่ยวกับการส่งก๊าซจากรัสเซียไปยังยุโรปผ่านทางยูเครนได้ลดลง 25% หลังยูเครนยุติการใช้เส้นทางส่งก๊าซที่สำคัญ ทำให้หุ้นกลุ่มเทคโนโลยี, รถยนต์ และเหมืองแร่ปรับตัวลงมากที่สุด

หุ้นซีเมนส์ของเยอรมนี ร่วงลง 2.5% หลังเปิดเผยว่าจะถอนตัวออกจากตลาดรัสเซีย เนื่องจากการทำสงครามในยูเครน ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อธุรกิจของบริษัทราว 600 ล้านยูโร (630.18 ล้านดอลลาร์) ในไตรมาส 2

▪ สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้ผลิต เพิ่มขึ้น 0.5% ในเดือน เม.ย. เมื่อเทียบรายเดือน สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ หลังจากดีดตัวขึ้น 1.6% ในเดือน มี.ค.

▪ นอกจากนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 1,000 ราย สู่ระดับ 203,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือน ก.พ. และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 195,000 ราย

Social Share
Facebook
Twitter
Picture of Traderbobo
Traderbobo

นักลงทุนในตลาด Forex และสินทรัพย์ทางการเงินด้วยประสบการณ์กว่า 10 ปี มุ่งเน้นการนำเสนอเนื้อหาที่เข้าใจง่าย พร้อมแบ่งปันความรู้และกลยุทธ์การเทรด เพื่อช่วยให้คุณประสบความสำเร็จในโลกการเงิน เหมาะสำหรับทั้งเทรดเดอร์มือใหม่และมืออาชีพ

บทความน่าสนใจ
Adsense
Table of Contents
บทความน่าสนใจ
Adsense