Market Watch จับตาดูโลก
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดบวกในวันพุธ (25 พ.ค.) หลังจากรายงานการประชุมเดือน พ.ค. ของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) บ่งชี้ว่า กรรมการเฟดทุกคนเชื่อมั่นว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ มีความแข็งแกร่ง ซึ่งจะทำให้เฟดสามารถใช้นโยบายคุมเข้มทางการเงิน เพื่อสกัดเงินเฟ้อได้โดยไม่ทำให้เศรษฐกิจถดถอย
Dow Jones +0.60%
S&P500 +0.95%
Nasdaq +1.51%
หุ้น 9 ใน 11 กลุ่มที่คำนวณในดัชนี S&P500 ปิดในแดนบวก นำโดยดัชนีหุ้นกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยพุ่งขึ้น 2.8% โดยหุ้นคาปรี โฮลดิ้งส์ ทะยานขึ้น 9.53%, หุ้นราล์ฟ ลอเรน พุ่งขึ้น 2.8% เเละหุ้นไนกี้ บวก 0.85%
หุ้นกลุ่มพลังงานดีดตัวขึ้นตามทิศทางราคาน้ำมัน WTI โดยหุ้นเชฟรอน พุ่งขึ้น 1.6%, หุ้นเอ็กซอน โมบิล พุ่งขึ้น 2.01%, หุ้นโคโนโคฟิลลิปส์ เพิ่มขึ้น 1.57% เเละหุ้นออคซิเดนเชียล ปิโตรเลียม พุ่งขึ้น 2.03%
หุ้นกลุ่มธุรกิจค้าปลีกพุ่งขึ้น หลังจากบริษัทนอร์ดสตรอมเปิดเผยผลประกอบการที่ดีเกินคาดในไตรมาส 1 และได้ปรับเพิ่มแนวโน้มผลประกอบการในปีงบการเงิน 2565 ทั้งนี้ หุ้นนอร์ดสตรอม ทะยานขึ้น 14.02%, หุ้นไฟฟ์ บีโลว์ (Five Below) พุ่งขึ้น 5.59%, หุ้นเบสต์บาย พุ่งขึ้น 8.94%, หุ้นเมซีส์ พุ่งขึ้น 9.09% และหุ้นทาร์เก็ต พุ่งขึ้น 4.34%
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีฟื้นตัวขึ้น จากแรงช้อนซื้อหลังจากถูกเทขายอย่างหนักเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา โดยหุ้นไมโครซอฟท์ เพิ่มขึ้น 1.12%, หุ้นเมตา แพลตฟอร์มส ดีดตัวขึ้น 1.41%, หุ้นอินวิเดีย ทะยานขึ้น 5.08% เเละหุ้นซูม วิดีโอ คอมมูนิเคชัน พุ่งขึ้น 8.48%
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ สมาคมนายธนาคารเพื่อการจำนอง (MBA) ของสหรัฐฯ เปิดเผยว่า จำนวนผู้ยื่นขอสินเชื่อเพื่อการจำนองลดลง 1.2% ในสัปดาห์ที่แล้ว โดยได้รับผลกระทบจากอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนองที่ยังคงอยู่ในระดับสูง
ทางด้านกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐฯ เช่น เครื่องบิน รถยนต์ และเครื่องจักรขนาดใหญ่ที่มีอายุการใช้งานตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป เพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือน เม.ย. หลังจากเพิ่มขึ้น 0.6% ในเดือน มี.ค.
ตลาดหุ้นยุโรป ปิดบวกในวันพุธ (25 พ.ค.) โดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มทรัพยากร และกลุ่มธนาคารที่ปรับตัวขึ้น ขณะที่นักลงทุนจับตาแนวโน้มการคุมเข้มนโยบายการเงิน ท่ามกลางความวิตกที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว
Stoxx Europe 600 +0.63%
CAC-40 +0.73%
DAX +0.63%
FTSE 100 +0.51%
ตลาดหุ้นยุโรปยังได้แรงหนุนหลัง GfK ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยตลาดของเยอรมนีเปิดเผยผลสำรวจในวันพุธระบุว่า ดัชนีคาดการณ์ความเชื่อมั่นผู้บริโภคในเยอรมนีสำหรับเดือน มิ.ย. ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ -26.0 สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ หลังดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ -26.6 ในเดือน พ.ค.
หุ้นกลุ่มธนาคาร ซึ่งได้ประโยชน์จากอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นนั้น ปรับตัวขึ้น 1.1% แตะระดับสูงสุดใหม่ในรอบ 1 เดือน และหนุนตลาดขึ้นมากที่สุด
บรรดานักลงทุนมุ่งความสนใจไปที่การเปิดเผยรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) เพื่อประเมินแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
หุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มวัสดุปรับตัวขึ้นมากที่สุด หลังจากราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นท่ามกลางปริมาณน้ำมันที่ตึงตัว และแนวโน้มอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นจากฤดูร้อนซึ่งมีการขับขี่รถเพื่อท่องเที่ยวในสหรัฐฯ
หุ้นกลุ่มสาธารณูปโภค ปรับตัวขึ้น 2.0% โดยหุ้นบริษัทผลิตไฟฟ้าฟื้นตัวขึ้น หลังจากร่วงลงก่อนหน้านี้จากความวิตกเกี่ยวกับการเก็บภาษีลาภลอย (windfall tax)
หุ้นเอสเอสอี พุ่ง 5.7% หลังรายงานผลกำไรต่อปีพุ่งขึ้น 23%