ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดทำการในวันจันทร์ (21 ก.พ.) เนื่องในวันประธานาธิบดีสหรัฐฯ เเต่เมื่อเช้าวันนี้ Dow Jones ดิ่งลงกว่า 500 จุด เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่า สถานการณ์ตึงเครียดระหว่างรัสเซียและยูเครนอาจทวีความรุนแรง หลังจากประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ประกาศรับรองเอกราชของ 2 แคว้นในยูเครน ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่ฝักใฝ่รัสเซีย
ประธานาธิบดีปูตินลงนามในกฤษฎีการับรองสถานะการเป็นรัฐอิสระ และเอกราชของสาธารณรัฐประชาชนโดเนตสก์ และสาธารณรัฐประชาชนลูฮันสก์ ซึ่งตั้งอยู่ในภูมิภาคดอนบาสของยูเครน อีกทั้งเป็นพื้นที่ที่ประชาชนส่วนใหญ่ฝักใฝ่รัสเซีย
หลังจากลงนามได้ไม่นาน ประธานาธิบดีปูตินได้สั่งการให้กองกำลังทหารรัสเซียเข้าประจำการใน 2 สาธารณรัฐประชาชนโดเนตสก์ และลูฮันสก์ โดยอ้างว่ากองกำลังสันติภาพชุดนี้มีเป้าหมายที่จะรักษาความเป็นระเบียบเรียบร้อยใน 2 แคว้นแห่งนี้
อย่างไรก็ตาม ตลาดการเงินทั่วโลกกังวลว่า การตัดสินใจดังกล่าวของประธานาธิบดีปูตินจะส่งผลให้ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับชาติตะวันตกทวีความรุนแรงมากขึ้น เนื่องจากการรับรองสถานะของ 2 แคว้นกบฏยูเครนถือเป็นการฉีกข้อตกลงมินสก์ ซึ่งมีเป้าหมายในการยุติสงครามแบ่งแยกดินแดนในดอนบาส หลังจากที่ได้คร่าชีวิตของกลุ่มแบ่งแยกดินแดน และกองกำลังยูเครนถึง 15,000 คน
ตลาดหุ้นยุโรป ปิดร่วงลงในวันจันทร์ (21 ก.พ.) ลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือน โดยหุ้นกลุ่มรถยนต์ และกลุ่มเทคโนโลยีนำตลาดร่วงลง หลังจากความเห็นของรัสเซียทำลายความหวังเกี่ยวกับการคลี่คลายวิกฤตทางทหารครั้งใหญ่สุดในรอบหลายสิบปี
Stoxx Europe 600 -1.30%
CAC-40 -2.04%
DAX -2.07%
FTSE 100 -0.39%
โดยรัสเซียเปิดเผยในวันจันทร์ว่า ไม่มีแผนการที่เป็นรูปธรรมสำหรับการเจรจาสุดยอดเกี่ยวกับยูเครนระหว่างประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซียกับประธานาธิบดีโจ ไบเดนแห่งสหรัฐ หลังจากประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศสเปิดเผยว่า ผู้นำทั้งสองได้ตกลงที่จะประชุมกันในหลักการ ทำให้หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีร่วงลง 2.6% สู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือน มี.ค. 2564 โดยปรับตัวลงเป็นวันที่ 4 ติดต่อกัน และยังปรับตัวลง 7 สัปดาห์ใน 8 รอบสัปดาห์แล้วในปีนี้
ทั้งนี้ ตลาดหุ้นยุโรปร่วงลงราว 20.2% แล้วในปีนี้ จากความวิตกเกี่ยวกับวิกฤตยูเครน และแนวโน้มที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) และธนาคารกลางอื่นๆ จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ
สำหรับข้อมูลทางการเงินที่เปิดเผยในวันจันทร์ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิต-บริการขั้นต้นของยูโรโซน อยู่ที่ 55.8 ในเดือน ก.พ. ทำสถิติสูงสุดในรอบ 5 เดือน เพิ่มขึ้นจากระดับ 52.3 ในเดือน ม.ค.
ซึ่งดัชนี PMI ปรับตัวสูงกว่าระดับ 50 หมายความว่า ภาคการผลิตและบริการของยูโรโซนโดยรวมยังคงมีการขยายตัว โดยได้รับปัจจัยหนุนจากการผ่อนปรนมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19