Market Watch จับตาดูโลก ประจำวันที่ 22 มีนาคม 2565

Table of Contents

▪ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดลบในวันจันทร์ (21 มี.ค.) หลังจากนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) กล่าวว่า อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ อยู่ในระดับที่สูงเกินไป และเฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากกว่า 0.25% เพื่อสกัดเงินเฟ้อ

Dow Jones  -0.58%

S&P500 -0.04%

Nasdaq -0.40%

ตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลง หลังจากนายพาวเวลกล่าวในการประชุมสมาคมเศรษฐกิจธุรกิจแห่งชาติของสหรัฐฯ เมื่อคืนนี้ตามเวลาไทยว่า “ตลาดแรงงานของสหรัฐฯ มีความแข็งแกร่งมาก และอัตราเงินเฟ้อก็อยู่ในระดับสูงมากเกินไป ด้วยเหตุนี้เราจึงอาจจะใช้มาตรการที่จำเป็นเพื่อสร้างความเชื่อมั่นว่า ตัวเลขเงินเฟ้อจะกลับมามีเสถียรภาพอีกครั้ง และหากเราพิจารณาแล้วเห็นว่าเป็นเรื่องเหมาะสมที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากกว่า 0.25% ในการประชุมครั้งหนึ่งหรือหลายครั้ง เราก็จะทำ”

หุ้น 6 ใน 11 กลุ่มที่คำนวณในดัชนี S&P500 ปิดในแดนลบ นำโดยหุ้นกลุ่มธุรกิจการสื่อสาร โดยหุ้นพินเทอเรสต์ ดิ่งลง 2.91% หุ้นสแนป ร่วงลง 2.36% หุ้นทวิตเตอร์ ลดลง 0.87% หุ้นเน็ตฟลิกซ์ ร่วงลง 1.58% หุ้นเอทีแอนด์ที ปรับตัวลง 0.22%

หุ้นเมตา แพลทฟอร์มส์ ดิ่งลง 2.31% หลังจากสำนักข่าวทาสส์ (TASS) ของรัสเซียรายงานว่า ศาลรัสเซียมีคำสั่งระงับการใช้งานแพลตฟอร์มเฟซบุ๊กและอินสตาแกรมในรัสเซียแล้วเมื่อวานนี้ โดยอ้างว่าแพลตฟอร์มดังกล่าวสนับสนุนความรุนแรง

หุ้นโบอิ้ง ร่วงลง 3.59% หลังจากเครื่องบินโบอิ้ง 737 ของสายการบินไชน่า อีสเทิร์น แอร์ไลน์ส พร้อมผู้โดยสาร 132 คน ตกในเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วงของจีนเมื่อช่วงบ่ายวานนี้

ในทางกลับกันหุ้นกลุ่มพลังงานพุ่งขึ้นหลังจากราคาน้ำมัน WTI ทะยานขึ้นกว่า 7% เมื่อคืนนี้ โดยหุ้นเอ็กซอน โมบิล พุ่งขึ้น 4.53% หุ้นเชฟรอน เพิ่มขึ้น 1.8% หุ้นโคโนโคฟิลลิปส์ พุ่งขึ้น 3.17% หุ้นฮัลลิเบอร์ตัน พุ่งขึ้น 4.27%

ส่วนหุ้นบริษัทผลิตอาวุธพุ่งขึ้น ท่ามกลางสงครามรัสเซีย-ยูเครนที่ยังไม่มีแนวโน้มยุติลงในขณะนี้ โดยหุ้นนอร์ธรอป กรัมแมน (Northrop Grumman) พุ่งขึ้น 4.32% หุ้นล็อคฮีด มาร์ติน (Lockheed Martin) พุ่งขึ้น 3.24% หุ้นเรย์เธียน เทคโนโลยีส์ (Raytheon Technologies) ดีดขึ้น 2.33% หุ้นเจเนอรัล ไดนามิกส์ (General Dynamics) พุ่งขึ้น 2.54%

▪ ตลาดหุ้นยุโรป ปิดปรับตัวขึ้นเล็กน้อยในวันจันทร์ (21 มี.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงาน ขณะที่ความวิตกเกี่ยวกับสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครนยังคงถ่วงบรรยากาศการซื้อขายทั่วโลก ตลาดมีความทรงตัวหลังปรับตัวขึ้นรายสัปดาห์คิดเป็นเปอร์เซ็นต์มากที่สุดนับตั้งแต่เดือน พ.ย. 2563 เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา

Stoxx Europe 600 +0.04%

CAC-40 -0.57%

DAX -0.60%

FTSE 100 -0.60%

นักลงทุนยังคงจับตาสงครามในยูเครนอย่างใกล้ชิด ขณะที่บรรดารัฐบาลของชาติสมาชิกสหภาพยุโรป (EU) พิจารณาที่จะคว่ำบาตรน้ำมันของรัสเซียในการประชุมกันในสัปดาห์นี้ ขณะที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐฯ จะเข้าร่วมการประชุมสุดยอดต่าง ๆ เพื่อตอกย้ำท่าทีในการต่อต้านรัสเซีย

ข่าวดังกล่าวได้หนุนหุ้นกลุ่มน้ำมันและก๊าซของยุโรปปรับตัวขึ้น 3.0% หลังสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์พุ่งขึ้นมากกว่า 3 ดอลลาร์ สู่เหนือระดับ 111 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่งผลให้หุ้นบีพีและหุ้นเชลล์ พุ่งขึ้น 4.1%

หุ้นรายตัวที่ปรับตัวขึ้นได้แก่ หุ้นจูเลียส แบร์ บวก 0.6% หลังจากเปิดเผยว่า บริษัทปล่อยสินเชื่อให้กับลูกค้าจำนวนน้อยที่เผชิญกับมาตรการคว่ำบาตรในตลาดรัสเซีย

นักลงทุนยังคงวิตกเกี่ยวกับเงินเฟ้อและดอกเบี้ยขาขึ้น โดยนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เปิดเผยเมื่อวันจันทร์ว่า เฟดต้องดำเนินการอย่างรวดเร็วเพื่อลดเงินเฟ้อที่ระดับสูง และอาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากกว่าปกติหากจำเป็น

ข้อมูลของเยอรมนีบ่งชี้ว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ยังคงเพิ่มสูงเป็นประวัติการณ์ในเดือน ก.พ. โดยพุ่งขึ้น 25.9% เมื่อเทียบรายปี เพราะราคาพลังงานพุ่งขึ้น

▪ นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงยอดขายบ้านใหม่เดือน ก.พ., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือน ก.พ., ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นต้นเดือน มี.ค. จากมาร์กิต, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นต้นเดือน มี.ค. จากมาร์กิต, ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือน ก.พ. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน มี.ค. จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน

Social Share
Facebook
Twitter
บทความน่าสนใจ
Adsense
Table of Contents
บทความน่าสนใจ
Adsense