ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดลบในวันจันทร์ (18 เม.ย.) ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน โดยตลาดถูกกดดันจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 3 ปี ขณะที่นักลงทุนจับตารายงานผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่ในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงเน็ตฟลิกซ์ และเทสลา
Dow Jones -0.11%
S&P500 -0.02%
Nasdaq -0.14%
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ อายุ 10 ปี พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุด นับตั้งแต่ปลายปี 2561 อันเนื่องมาจากกระแสคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) จะเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ ซึ่งพันธบัตรสหรัฐฯ อายุ 10 ปี ถือเป็นพันธบัตรที่ใช้อ้างอิงในการกำหนดราคาของตราสารหนี้ทั่วโลก รวมถึงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนอง หากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรปรับตัวขึ้น จะทำให้บริษัทต่าง ๆ เผชิญกับต้นทุนที่สูงขึ้นจากการชำระหนี้ เเละส่งผลให้บริษัทเหล่านี้ลดการลงทุน และลดการจ่ายเงินปันผลแก่นักลงทุน
หุ้นบริษัทเทคโนโลยีบางแห่งปิดตลาดอ่อนแรงลง เนื่องจากการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตร โดยหุ้นแอปเปิล ปรับตัวลง 0.13%, หุ้นเน็ตฟลิกซ์ ลดลง 0.96% เเละหุ้นซิสโก ซิสเต็มส์ ขยับลง 0.12%
หุ้นชาร์ลส์ ชวาบ คอร์ปอเรชั่น (Charles Schwab Corporation) ผู้ให้บริการด้านการเงินรายใหญ่ของสหรัฐฯ ร่วงลง 9.47% ซึ่งเป็นการร่วงลงรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่เดือน มี.ค. 2563 หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่ต่ำกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
ส่วนทางกับหุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา พุ่งขึ้น 3.53% หลังธนาคารเปิดเผยกำไรต่อหุ้นในไตรมาส 1/2565 ที่ระดับ 80 เซนต์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 75 เซนต์ และมีรายได้ 2.33 หมื่นล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ 2.32 หมื่นล้านดอลลาร์
หุ้นทวิตเตอร์ ทะยานขึ้น 7.48% ขานรับรายงานที่ว่า คณะกรรมการบริหารของทวิตเตอร์ประกาศใช้กลยุทธ์ขัดขวางไม่ให้นายอีลอน มัสก์ เข้าฮุบกิจการทวิตเตอร์ด้วยการเสนอซื้อหุ้นทั้งหมดของบริษัท
หุ้นเทสลา ดีดตัวขึ้น 1.96% หลังมีรายงานว่า เทสลาเตรียมกลับมาเปิดโรงงานในนครเซี่ยงไฮ้อีกครั้ง หลังจากที่ปิดโรงงานดังกล่าวเป็นเวลานานเกือบ 3 สัปดาห์ เนื่องจากจีนประกาศล็อกดาวน์เซี่ยงไฮ้เพื่อควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ สมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB) ของสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านลดลง 2 จุด สู่ระดับ 77 ในเดือน เม.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 7 เดือน โดยมีสาเหตุจากปัญหาห่วงโซ่อุปทาน, สต็อกบ้านในระดับต่ำ, การพุ่งขึ้นของอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนอง, ราคาบ้าน และต้นทุนในการก่อสร้าง
ตลาดหุ้นยุโรป เมื่อวานนี้ (18 เม.ย.) ปิดทำการ รวมถึงตลาดหุ้นอังกฤษ ตลาดหุ้นเยอรมนี และตลาดหุ้นฝรั่งเศส เนื่องในวัน Easter Monday
นักลงทุนจับตารายงานผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่ของสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึง เน็ตฟลิกซ์, เทสลา, ยูไนเต็ด แอร์ไลน์, อเมริกัน แอร์ไลน์, ไอบีเอ็ม, พรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล, จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน, อเมริกัน เอ็กซ์เพรส และเวอไรซอน