Market Watch จับตาดูโลก ประจำวันที่ 11 พฤษภาคม 2565

Table of Contents

▪ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดลบในวันอังคาร (10 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) จะเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ อย่างไรก็ดี ดัชนี Nasdaq ดีดตัวขึ้นเกือบ 1% ขานรับแรงซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี

Dow Jones -0.26%

S&P500 +0.25%

Nasdaq +0.98%

ดัชนีดาวโจนส์ปิดในแดนลบติดต่อกันเป็นวันที่ 4 เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของการที่เฟดเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยยังคงเป็นปัจจัยกดดันตลาด โดย FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า ขณะนี้นักลงทุนให้น้ำหนัก 75% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมวันที่ 14-15 มิ.ย. ซึ่งเพิ่มขึ้นจากระดับ 19% เมื่อเดือนที่แล้ว

หุ้น 7 ใน 11 กลุ่มที่คำนวณในดัชนี S&P500 ปิดในแดนลบ นำโดยดัชนีหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์พุ่งขึ้น 2.29% และดัชนีหุ้นกลุ่มสาธารณูปโภคดีดตัวขึ้น 1.24% โดยหุ้นโจนส์ แลง ลาซาลล์ ร่วงลง 1.06%, หุ้นพีจีแอนด์อี คอร์ปอเรชั่น ดิ่งลง 2.4%, หุ้นดุ๊ค เอนเนอร์จี ร่วงลง 1.71% เเละหุ้นเฟิร์สท์ เอนเนอร์จี ลดลง 0.28%

หุ้นกลุ่มธนาคารปรับตัวลง หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี ร่วงหลุดจากระดับ 3% เมื่อคืนนี้ โดยหุ้นซิตี้กรุ๊ป ร่วงลง 2.29%, หุ้นเจพีมอร์แกน ดิ่งลง 2.38%, หุ้นโกลด์แมน แซคส์ ลดลง 1.22% เเละหุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา ร่วงลง 1.68%

ซึ่งการร่วงลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรเป็นปัจจัยหนุนหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี โดยหุ้นแอปเปิล ดีดตัวขึ้น 1.61%, หุ้นอัลฟาเบท พุ่งขึ้น 1.67%, หุ้นเมตา แพลตฟอร์มส บวก 0.73% เเละหุ้นเน็ตฟลิกซ์ พุ่งขึ้น 2.63%

หุ้นไฟเซอร์ พุ่งขึ้น 1.66% หลังมีรายงานว่า ไฟเซอร์จะเข้าซื้อกิจการบริษัทไบโอฮาเวน ฟาร์มาซูติคัล (Biohaven Pharmaceutical) ในวงเงิน 1.16 หมื่นล้านดอลลาร์ อย่างไรก็ดี ข่าวดังกล่าวได้ฉุดหุ้นไบโอฮาเวนทรุดตัวลงถึง 68.13%

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ สหพันธ์ธุรกิจอิสระแห่งชาติสหรัฐฯ (NFIB) รายงานว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของธุรกิจขนาดย่อมทรงตัวที่ระดับ 93.2 ในเดือน เม.ย. หลังจากปรับตัวลงติดต่อกัน 3 เดือน โดยผลสำรวจพบว่า ภาคธุรกิจยังคงมีความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อ และการขาดแคลนแรงงาน

ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่น ๆ ของสหรัฐฯ ที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือน เม.ย. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นเดือน พ.ค. จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน

▪ ตลาดหุ้นยุโรป ปิดดีดตัวขึ้นในวันอังคาร (10 พ.ค.) จากระดับต่ำสุดในรอบ 2 เดือน เนื่องจากนักลงทุนกลับเข้าช้อนซื้อหุ้นราคาถูก ซึ่งร่วงลงจากแรงเทขายก่อนหน้านี้ท่ามกลางความวิตกว่า เศรษฐกิจโลกจะชะลอตัวลงอย่างรุนแรง

Stoxx Europe 600 +0.68%

CAC-40 +0.51%

DAX +1.15%

FTSE 100 +0.37%

หุ้นทุกกลุ่มปรับตัวเข้าสู่แดนบวก เนื่องจากนักลงทุนเข้าช้อนซื้อหุ้นทางเทคนิค หลังจากราคาหุ้นร่วงลงอย่างหนักก่อนหน้านี้ จากความวิตกเกี่ยวกับการล็อกดาวน์ของจีนเพื่อควบคุมโรคโควิด-19 ระบาด, การทำสงครามในยูเครน และความวิตกเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

ตลาดได้แรงหนุนจากการเปิดเผยข้อมูลที่บ่งชี้ว่า ความเชื่อมั่นของนักลงทุนเยอรมนีเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในเดือน พ.ค. จากการคาดการณ์ที่ว่า สถานการณ์เศรษฐกิจในเยอรมนีจะย่ำแย่น้อยกว่าที่คาดไว้ก่อนหน้านี้ เนื่องจากธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะดำเนินการเพื่อสกัดเงินเฟ้อ

ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจยุโรป (ZEW) เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจของเยอรมนีปรับตัวขึ้นสู่ระดับ -34.3 ในเดือน พ.ค. จากระดับ -41.0 ในเดือน เม.ย. และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ -42.0

ข่าวเกี่ยวกับการควบรวมกิจการช่วยหนุนตลาดด้วย โดยหุ้นแมตช์ เอบีของสวีเดน พุ่งขึ้น 24.9% หลังบริษัทฟิลิป มอริส อินเตอร์เนชันแนล อิงค์ ซึ่งเป็นบริษัทบุหรี่ของสหรัฐฯ เปิดเผยว่า กำลังเจรจาเพื่อซื้อธุรกิจของแมตช์

นอกจากนี้ การเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียนช่วยหนุนตลาดด้วย โดยหุ้นไบเออร์ พุ่งขึ้น 5.4% หลังเปิดเผยผลประกอบการรายไตรมาสดีกว่าคาด

▪ นักลงทุนจับตาสหรัฐฯ เปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ประจำเดือน เม.ย. ในวันนี้เวลา 19.30 น. ตามเวลาไทย ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ดัชนี CPI เป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภคจะปรับตัวขึ้น 8.1% ในเดือน เม.ย. เมื่อเทียบรายปี ซึ่งต่ำกว่าระดับ 8.5% ในเดือน มี.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือน ธ.ค. 2524

Social Share
Facebook
Twitter