Market Watch จับตาดูโลก ประจำวันที่ 28 มิถุนายน 2565

Table of Contents

Market Watch จับตาโลกวันนี้ : เมื่อวานนี้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดลบ โดยตลาดถูกกดดันจากแรงขายหุ้นเติบโต ซึ่งเป็นหุ้นที่อ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ย สวนทางกับตลาดหุ้นยุโรปปิดบวก เนื่องจากหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ที่ปรับตัวขึ้น และการผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิด-19 ในจีน ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผย GDP ไตรมาส 1 ของสหรัฐฯ ในวันพรุ่งนี้

▪ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดลบในวันจันทร์ (27 มิ.ย.) โดยตลาดถูกกดดันจากแรงขายหุ้นเติบโต (Growth Stocks) ซึ่งเป็นหุ้นที่อ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ย ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 1 ของสหรัฐฯ ในวันพรุ่งนี้

Dow Jones -0.20%

S&P500 -0.30%

Nasdaq -0.72%

บรรยากาศการซื้อขายในตลาดเป็นไปอย่างซบเซา เนื่องจากตลาดขาดปัจจัยชี้นำในสัปดาห์นี้ ส่วนในสัปดาห์หน้าคาดว่า นักลงทุนจะจับตารายงานผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน

หุ้นเติบโต ซึ่งเป็นหุ้นที่มีความอ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ย เช่น หุ้นกลุ่มเทคโนโลยี และกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยปรับตัวลง หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี พุ่งขึ้นแตะระดับ 3.202% เมื่อคืนนี้ โดยหุ้นแอมะซอน ร่วงลง 2.78%, หุ้นไมโครซอฟท์ ลดลง 1.05%, หุ้นเน็ตฟลิกซ์ ลดลง 0.90%, หุ้นอัลฟาเบท ร่วงลง 1.82%, หุ้นราล์ฟ ลอเรน ร่วงลง 2.17% และหุ้นไนกี้ ดิ่งลง 2.13%

หุ้นคอยน์เบส โกลบอล ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มซื้อขายคริปโทเคอร์เรนซี ดิ่งลง 10.76% หลังจากโกลด์แมน แซคส์ ปรับลดน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นคอยน์เบส ลงสู่ระดับ “Sell” จากระดับ “Buy”

อย่างไรก็ดี หุ้นกลุ่มพลังงานพุ่งขึ้นตามทิศทางราคาน้ำมัน WTI โดยหุ้นเอ็กซอน โมบิล พุ่งขึ้น 2.38%, หุ้นเชฟรอน เพิ่มขึ้น 1.92%, หุ้นชลัมเบอร์เจอร์ พุ่งขึ้น 2.37%, หุ้นฟิลลิปส์ 66 พุ่งขึ้น 3.56% และหุ้นฮัลลิเบอร์ตัน พุ่งขึ้น 4.17%

หุ้นโรบินฮูด มาร์เก็ตส์ (Robinhood Markets) ซึ่งบริษัทโบรกเกอร์ออนไลน์ที่ให้บริการซื้อขายหุ้นผ่านแอปพลิเคชั่นโดยไม่คิดค่าธรรมเนียม ทะยานขึ้น 14% หลังสื่อรายงานว่าเอฟทีเอ็กซ์ (FTX) ซึ่งเป็นบริษัทคริปโทเคอร์เรนซีรายใหญ่ระดับโลก กำลังพิจารณายื่นข้อเสนอซื้อกิจการของโรบินฮูด

หุ้นไบออนเทค พุ่งขึ้น 7.21% หลังจากบริษัทเปิดเผยว่า วัคซีนโควิด-19 เข็มบูสเตอร์ของไบออนเทคมีประสิทธิภาพในการสร้างภูมิคุ้มกันไวรัสสายพันธุ์โอมิครอนได้ดียิ่งขึ้น

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่มีการรายงานในวันจันทร์ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐฯ เช่น เครื่องบิน รถยนต์ และเครื่องจักรขนาดใหญ่ที่มีอายุการใช้งานตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป เพิ่มขึ้น 0.7% ในเดือนพ.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนเม.ย. โดยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนในเดือนพ.ค. ได้รับแรงหนุนจากคำสั่งซื้อรถยนต์

นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลข GDP ประจำไตรมาส 1/2565 โดยกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐฯ ในวันพุธ ซึ่งจะเป็นตัวเลขประมาณการครั้งสุดท้าย

▪ ตลาดหุ้นยุโรป ปิดบวกในวันจันทร์ (27 มิ.ย.) แตะระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ โดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ที่ปรับตัวขึ้น และการผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิด-19 ในจีน ได้ช่วยหนุนบรรยากาศการซื้อขายในตลาดหุ้นทั่วโลก

Stoxx Europe 600 +0.52%

CAC-40 -0.43%

DAX -0.52%

FTSE 100 +0.69%

ตลาดได้แรงหนุนจากการที่จีนและเซี่ยงไฮ้ผ่อนคลายมาตรการควบคุมโรคโควิด-19 โดยเซี่ยงไฮ้ประกาศชัยชนะในการควบคุมการแพร่ระบาด ซึ่งได้ช่วยบรรเทาความวิตกเกี่ยวกับการขยายตัวของเศรษฐกิจจีน

หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ พุ่งขึ้น 1.8% ขณะที่กลุ่มอุตสาหกรรมและเฮลท์แคร์ หนุนตลาดขึ้นด้วย

การซื้อขายเป็นไปอย่างผันผวนในช่วงหลายวันที่ผ่านมา ขณะที่นักลงทุนพยายามที่จะประเมินผลกระทบของอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก และแรงกดดันด้านราคาที่เพิ่มขึ้น ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อผลประกอบการและการขยายตัวทางเศรษฐกิจ

หุ้นรายตัวที่ปรับตัวขึ้นอย่างมากได้แก่ หุ้นโพรซัส (Prosus) พุ่งขึ้น 15.7% หลังเปิดเผยว่า บริษัทจะทยอยขายหุ้น 28.9% ในบริษัทเทนเซ็นต์ของจีน ซึ่งคิดเป็นมูลค่ามากกว่า 1 แสนล้านดอลลาร์ในปัจจุบัน

นักลงทุนจะมุ่งความสนใจไปที่การเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจ เช่น ดัชนีราคาผู้บริโภคของเยอรมนี ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคยูโรโซน และดัชนีกิจกรรมการผลิตขั้นสุดท้ายของยูโรโซนในสัปดาห์นี้

นอกจากนี้ นักลงทุนจะรอฟังความเห็นจากเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางรายใหญ่ในการประชุมประจำปีของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ระหว่างวันที่ 27-29 มิ.ย. นี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้แนวโน้มนโยบายการเงิน

Social Share
Facebook
Twitter