Market Watch จับตาโลกวันนี้ : เมื่อวานนี้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ และตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วง เนื่องจากนักลงทุนยังคงกังวลว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ จะเข้าสู่ภาวะถดถอย หลังจากธนาคารกลางต่าง ๆ เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เพื่อสกัดเงินเฟ้อ
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดร่วงลงในวันพฤหัสบดี (30 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงกังวลว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ จะเข้าสู่ภาวะถดถอย หลังจากธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) ส่งสัญญาณชัดเจนว่าจะเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เพื่อสกัดเงินเฟ้อ
Dow Jones -0.82%
S&P500 -0.88%
Nasdaq -1.33%
สำหรับภาวะการซื้อขายเมื่อคืนนี้ ตลาดยังคงถูกกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย หลังจากเฟดส่งสัญญาณเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เพื่อสกัดเงินเฟ้อ โดยล่าสุดกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ รายงานว่า ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ทั่วไป ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 6.3% ในเดือนพ.ค. เมื่อเทียบรายปี หลังจากเพิ่มขึ้น 6.3% ในเดือนเม.ย. เช่นกัน ส่วนดัชนี PCE พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน และเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญ เพิ่มขึ้น 4.7% ในเดือนพ.ค. เมื่อเทียบรายปี
หุ้น 8 ใน 11 กลุ่มที่คำนวณในดัชนี S&P500 ปิดในแดนลบ นำโดยดัชนีหุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลง 2.04% โดยหุ้นเอ็กซอน โมบิล ร่วงลง 2.83%, หุ้นเบเกอร์ ฮิวจ์ ร่วงลง 2.56%, หุ้นฮัลลิเบอร์ตัน ดิ่งลง 2.49%, หุ้นโคโนโคฟิลลิปส์ ลดลง 1.80% และหุ้นเชฟรอน ลดลง 1.50%
ดัชนีหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและการสื่อสารร่วงลง 1.55% โดยหุ้นเมตา แพลทฟอร์มส์ ดิ่งลง 1.64%, หุ้นทวิตเตอร์ ลดลง 1.1%, หุ้นแอปเปิล ร่วงลง 1.8%, หุ้นเน็ตฟลิกซ์ ร่วงลง 1.96%, หุ้นอัลฟาเบท ดิ่งลง 2.45% และหุ้นไมโครซอฟท์ ปรับตัวลง 1.32%
หุ้นกลุ่มธุรกิจเรือสำราญร่วงลงอย่างหนัก หลังจากนักวิเคราะห์ของเจพีมอร์แกนได้ปรับลดเป้าหมายราคาหุ้นของบริษัทคาร์นิวัล คอร์ป โดยระบุว่า ราคาหุ้นของบริษัทอาจจะปรับตัวลดลงเหลืองศูนย์ ทั้งนี้ หุ้นคาร์นิวัล คอร์ป ร่วงลง 2.48%, หุ้นรอยัล คาริบเบียน ครูส ร่วงลง ดิ่งลง 3.08% และหุ้นนอร์วีเจียน ครูส ไลน์ ร่วงลง 3.89%
หุ้นวอลกรีนส์ บู้ทส์ อัลลิอันซ์ ซึ่งเป็นเครือข่ายร้านขายยาขนาดใหญ่ของสหรัฐฯ ร่วงลง 7.27% หลังบริษัทเปิดเผยกำไรรายไตรมาสทรุดตัวลง 76% เนื่องจากยอดขายในสหรัฐฯ ชะลอตัวลง
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 2,000 ราย สู่ระดับ 231,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว แต่สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 230,000 ราย
ทางด้านกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เปิดเผยว่า การใช้จ่ายส่วนบุคคลของผู้บริโภคสหรัฐฯ ลดลง 0.4% ในเดือนพ.ค. เมื่อเทียบรายเดือน หลังเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนเม.ย. โดยการใช้จ่ายของผู้บริโภคสหรัฐฯ ได้รับผลกระทบจากความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อ หลังจากรัสเซียส่งกำลังทหารบุกโจมตียูเครน
ตลาดหุ้นยุโรป ปิดปรับตัวลงในวันพฤหัสบดี (30 มิ.ย.) และปิดตลาดไตรมาส 2 ย่ำแย่ที่สุดนับตั้งแต่ต้นปี 2563 เนื่องจากนักลงทุนวิตกมากขึ้นเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอย หลังจากธนาคารกลางต่าง ๆ เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เพื่อสกัดเงินเฟ้อ
Stoxx Europe 600 -1.50%
CAC-40 -1.80%
DAX -1.69%
FTSE 100 -1.96%
หุ้นทุกกลุ่มปรับตัวลง โดยหุ้นกลุ่มธนาคารร่วงลงมากที่สุด 3.3% แตะระดับต่ำสุดของเดือนมี.ค. หลังจากธนาคารกลางยุโรป (ECB) ขอให้ธนาคารต่าง ๆ ทำการประเมินความเสี่ยงเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ ร่วงลงอย่างหนักในไตรมาส 2 โดยร่วงลงมากกว่า 20%
อย่างไรก็ตาม หุ้นไบออนเทค พุ่งขึ้น 5.6% สวนทางตลาดโดยรวม หลังร่วมกับไฟเซอร์ลงนามในข้อตกลง 3.2 พันล้านดอลลาร์กับรัฐบาลสหรัฐฯ เพื่อส่งมอบวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 จำนวน 105 ล้านโดส
ตลาดหุ้นฝรั่งเศสถูกกดดันหลังจากเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงเป็นประวัติการณ์ที่ 6.5% ในเดือนมิ.ย.
ยูบีเอสได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจของยูโรโซนในปีนี้ และระบุว่า ยูโรโซนกำลังเข้าสู่ภาวะเงินเฟ้อสูงและเศรษฐกิจชะลอตัว (Stagflation) ขณะที่ความพยายามที่จะสกัดเงินเฟ้อจะทำให้การขยายตัวทางเศรษฐกิจเกือบหยุดชะงักในช่วงครึ่งหลังของปีนี้
ดัชนี STOXX 600 ปรับตัวลงมากกว่า 16% แล้วในปีนี้ โดยถูกกดดันจากความวิตกเกี่ยวกับเงินเฟ้อ, เศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัวลง และการที่รัสเซียบุกโจมตียูเครน
บรรดานักลงทุนจะจับตาการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อเดือนมิ.ย. ของยูโรโซนในวันศุกร์นี้ ซึ่ง ECB จะพิจารณาข้อมูลดังกล่าวก่อนการประชุมนโยบายในวันที่ 21 ก.ค. ซึ่งจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2554