Market Watch จับตาดูโลก ประจำวันที่ 18 กรกฏาคม 2565

Table of Contents

Market Watch จับตาโลกวันนี้ : เมื่อวันศุกร์ (15 ก.ค.) ตลาดหุ้นสหรัฐฯ และยุโรปปิดดีดตัวขึ้น นำโดยหุ้นกลุ่มรถยนต์และกลุ่มค้าปลีก โดยได้แรงหนุนจากการเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่ง ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ, วิกฤตการเมืองในอิตาลี และภาวะเศรษฐกิจถดถอย

▪ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดพุ่งขึ้นกว่า 600 จุด ในวันศุกร์ที่ผ่านมา (15 ก.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียน, ข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง และนักลงทุนคลายความวิตกเกี่ยวกับการที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากเกินคาด

Dow Jones +2.15%

S&P500 +1.92%

Nasdaq +1.79%

หุ้นทั้ง 11 กลุ่มของดัชนี S&P500 ปิดในแดนบวก โดยกลุ่มการเงินพุ่งขึ้นมากที่สุด 3.5% ในส่วนของหุ้นกลุ่มการเงินปรับตัวขึ้นนำตลาด หลังซิตี้กรุ๊ปเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่ง

ดัชนี S&P500 กลุ่มธนาคาร พุ่งขึ้น 5.8% ซึ่งเป็นการพุ่งขึ้นเป็นเปอร์เซ็นต์วันเดียวมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนม.ค. 2563

หุ้นซิตี้กรุ๊ป พุ่งขึ้น 13.2% หลังเปิดเผยผลกำไรที่สูงกว่าคาด ขณะที่หุ้นเวลส์ ฟาร์โก พุ่ง 6.2% แม้เปิดเผยผลกำไรลดลง

หุ้นยูไนเต็ดเฮลท์ กรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัทด้านเฮลท์แคร์ พุ่งขึ้น 5.4% หลังปรับเพิ่มคาดการณ์ผลกำไรทั้งปีเป็นไตรมาสที่ 2 ติดต่อกัน

หุ้นแบล็คร็อก ซึ่งเป็นบริษัทจัดการสินทรัพย์รายใหญ่ที่สุดของโลก พุ่งขึ้น 2.0% แม้เปิดเผยผลกำไรลดลงมากกว่าคาด

นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนหลังนักลงทุนคลายความวิตกเกี่ยวกับการที่เฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยรุนแรงถึง 1% ในเดือนนี้ หลังจากที่เจ้าหน้าที่เฟดได้ออกมาแสดงความเห็นในวันพฤหัสบดีและวันศุกร์ซึ่งบ่งชี้ว่า มีแนวโน้มที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในเดือนนี้

ส่วนในสัปดาห์หน้านั้น นักลงทุนจะมุ่งความสนใจไปที่การเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนต่าง ๆ อาทิ โกลด์แมน แซคส์, แบงก์ ออฟ อเมริกา คอร์ป, อินเตอร์เนชันแนล บิสิเนส คอร์ป, เน็ตฟลิกซ์, เทสลา และทวิตเตอร์

▪ ตลาดหุ้นยุโรป ปิดบวกในวันศุกร์ (15 ก.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการดีดตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มรถยนต์และกลุ่มค้าปลีก หลังจากตลาดร่วงลง 2 วันติดต่อกัน ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ, วิกฤตการเมืองในอิตาลี และภาวะเศรษฐกิจถดถอย

Stoxx Europe 600 +1.79%

CAC-40 +2.04%

DAX +2.76%

FTSE 100 +1.69%

ตลาดหุ้นอิตาลีฟื้นตัวขึ้น หลังร่วงต่ำสุดในรอบ 2 ปีครึ่ง ขณะที่นักลงทุนรอดูความคืบหน้าของวิกฤตการเมืองในประเทศ

นายเซอร์จิโอ แมตตาเรลลา ประธานาธิบดีอิตาลี ปฏิเสธการยื่นลาออกของนายมาริโอ ดรากี นายกรัฐมนตรีของอิตาลีในวันพฤหัสบดี และขอให้นายดรากีชี้แจงต่อรัฐสภาในสัปดาห์หน้า

ตลาดหุ้นยุโรปฟื้นตัวขึ้นหลังจากร่วงลงในช่วง 2 วันที่ผ่านมาจากความวิตกว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (FED) อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากถึง 1% ในเดือนนี้

แต่ความวิตกดังกล่าวได้ลดลง หลังจากเจ้าหน้าที่เฟดสองรายเปิดเผยในวันศุกร์ว่า พวกเขาสนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75%

ตลาดได้แรงหนุนจากรายงานข่าวที่ว่า ท่อส่งก๊าซนอร์ด สตรีม 1 จากรัสเซียไปยังเยอรมนีจะเปิดทำการอีกครั้งในวันที่ 21 ก.ค.นี้ หลังปิดดำเนินการเพื่อซ่อมบำรุงในสัปดาห์นี้

นักลงทุนจะจับตาการประชุมของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในสัปดาห์หน้า ซึ่งคาดว่า ECB จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25%

หุ้นกลุ่มรถยนต์ปรับตัวขึ้นตามกัน โดยหุ้นโฟลค์สวาเกน พุ่งขึ้น 3.5% หลังสาขาในจีนยืนยันเป้าหมายเพิ่มยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าเป็นสองเท่าในปีนี้ แม้เผชิญภาวะชะงักงันจากโรคโควิด-19 ก็ตาม

หุ้นเมอร์เซเดส-เบนซ์, หุ้นปอร์เช่ ออโตโมบิล และหุ้นเรโนลต์ พุ่งขึ้น 4.3-6.9%

Social Share
Facebook
Twitter