ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดลบในวันพฤหัสบดี (13 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี หลังจากราคาหุ้นพุ่งขึ้นติดต่อกัน 3 วันทำการ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากการที่เจ้าหน้าที่หลายคนของธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ซึ่งรวมถึงนางลาเอล เบรนาร์ด ได้ออกมาแสดงความเห็นเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อและการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
Dow Jones -0.49%
S&P500 -1.42%
Nasdaq -2.51%
บรรยากาศการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กถูกกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยอีกครั้ง หลังจากเจ้าหน้าที่ FED หลายคนได้ออกมาแสดงความเห็นในเชิงสนับสนุนให้ FED ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือน มี.ค. เพื่อสกัดเงินเฟ้อ ถือเป็นการส่งสัญญาณถึงความเป็นไปได้ที่ว่า FED อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 15-16 มี.ค. นี้
นอกจากนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 23,000 ราย สู่ระดับ 230,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือน พ.ย.2564 และสวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าจะลดลงสู่ระดับ 200,000 ราย
ตลาดหุ้นยุโรปปิดลดลงในวันพฤหัสบดี (13 ม.ค.) ตามทิศทางตลาดหุ้นทั่วโลก เนื่องจากนักลงทุนวิตกเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อ นักเศรษฐศาสตร์บางรายคิดว่าเงินเฟ้ออาจแสดงสัญญาณแตะระดับสูงสุดแล้ว และรายงานดังกล่าวดูเหมือนจะใกล้เคียงกับแนวโน้มในระยะยาว
Stoxx Europe 600 -0.03%
CAC-40 -0.50%
DAX +0.13%
FTSE 100 +0.16%
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยผลประกอบการประจำไตรมาส 4/2564 ของธนาคารรายใหญ่ในวันนี้ ซึ่งได้แก่ เจพีมอร์แกน เชส, ซิตี้กรุ๊ป และเวลส์ ฟาร์โก ส่วนในสัปดาห์หน้าจะเป็นการรายงานผลประกอบการของบริษัทเทคโนโลยี