Market Watch จับตาดูโลก ประจำวันที่ 2 มีนาคม 2565

Table of Contents

▪ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดร่วงลงเกือบ 600 จุดในวันอังคาร (1 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดในยูเครน รวมทั้งผลกระทบทางเศรษฐกิจหลังจากชาติมหาอำนาจพร้อมใจกันคว่ำบาตรรัสเซีย

Dow Jones  -1.76%

S&P500 -1.55%

Nasdaq -1.59%

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า รัสเซียได้เตือนให้ประชาชนยูเครนอพยพออกจากบ้านเรือน ก่อนที่จะระดมยิงจรวดเข้าใส่เมืองคาร์คีฟซึ่งเป็นเมืองใหญ่อันดับสองของยูเครน ขณะที่นายเซอร์เก ชอยกู รัฐมนตรีกลาโหมของรัสเซียกล่าวว่า รัสเซียจะยังคงใช้ปฏิบัติการพิเศษทางทหารต่อยูเครน จนกว่าจะบรรลุเป้าหมายหลักในการปกป้องตนเองจากภัยคุกคามของชาติตะวันตก

ส่งผลให้ภาวะการซื้อขายในตลาดเป็นไปอย่างผันผวนและตื่นตระหนก เเละสถานการณ์ยังไม่มีแนวโน้มคลี่คลายลง โดยดัชนีความผันผวน CBOE หรือ CBOE Volatility Index (VIX) ซึ่งเป็นมาตรวัดความวิตกของนักลงทุนในตลาดหุ้นวอลล์สตรีท พุ่งขึ้น 13.57% สู่ระดับ 34.24 เมื่อคืนนี้

หุ้น 10 ใน 11 กลุ่มที่คำนวณในดัชนี S&P500 ปรับตัวลง นำโดยดัชนีหุ้นกลุ่มธนาคารร่วงลง 3.7% โดยหุ้นโกลด์แมน แซคส์ ร่วงลง 3.79% หุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา ดิ่งลง 3.91% หุ้นมอร์แกน สแตนลีย์ ร่วงลง 3.42% หุ้นเจพีมอร์แกน ร่วงลง 3.77% อีกทั้งราคาหุ้นกลุ่มธนาคารร่วงลงหลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี ดิ่งลงสู่ระดับ 1.721% ซึ่งทำให้นักลงทุนกังวลเกี่ยวกับความสามารถในการทำกำไรของภาคธนาคารในสภาวะอัตราดอกเบี้ยต่ำ

ตัวเลขทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่เปิดเผยจากกระทรวงพาณิชย์ระบุว่า ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) พื้นฐาน เป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่สามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของผู้บริโภค และครอบคลุมราคาสินค้าและบริการในวงกว้างมากกว่าข้อมูลดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) จากกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน และเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) ให้ความสำคัญ พุ่งขึ้น 5.2% ในเดือน ม.ค. เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือน เม.ย. 2526 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 5.1%

▪ ตลาดหุ้นยุโรป ปิดทรุดตัวลงในวันอังคาร (1 มี.ค.) โดยถูกกดดันจากการเปิดเผยผลประกอบการที่อ่อนแอของบริษัทจดทะเบียนและความวิตกเกี่ยวกับวิกฤตการณ์ในยูเครน ขณะที่รัสเซียเดินหน้าโจมตียูเครนหลังการเจรจาเพื่อหยุดยิงนั้นยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงกันได้

Stoxx Europe 600 -2.37%

CAC-40 -3.94%

DAX -3.85%

FTSE 100 -1.72%

หุ้นกลุ่มเดินทางและสันทนาการ ร่วงลง 7.5% หลังบริษัทฟลัทเทอร์ซึ่งทำธุรกิจพนันเปิดเผยผลประกอบการที่น่าผิดหวัง ขณะที่การปิดน่านฟ้าเพื่อห้ามสายการบินจาก 36 ประเทศใช้น่านฟ้าของรัสเซีย เพื่อเป็นการตอบโต้ต่อชาติตะวันตกที่ได้คว่ำบาตรรัสเซียก่อนหน้านี้ ได้ส่งผลกระทบต่อหุ้นสายการบิน ทั้งนี้สายการบินจากอังกฤษ เยอรมนี สเปน อิตาลี และแคนาดา อยู่ในกลุ่มประเทศที่ถูกห้ามใช้น่านฟ้าของรัสเซีย

ราคาน้ำมันพุ่งกลับไปอยู่เหนือระดับ 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่ราคาทองคำ พันธบัตร และดอลลาร์ปรับตัวขึ้นจากแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย ส่วนหุ้นกลุ่มธนาคารและกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยร่วงลงอย่างหนัก ซึ่งส่งผลฉุดตลาดหุ้นอิตาลีและตลาดหุ้นฝรั่งเศสร่วงลงอย่างรุนแรงเช่นกัน

ตลาดร่วงลง หลังการเจรจาโดยตรงระหว่างคณะผู้แทนของรัสเซียและยูเครน เพื่อคลี่คลายความขัดแย้งระหว่างทั้งสองประเทศได้สิ้นสุดลงเมื่อวันจันทร์ โดยไม่ได้ข้อสรุปแต่อย่างใด และทั้งสองฝ่ายจะทำการเจรจารอบต่อไปที่ชายแดนเบลารุสและโปแลนด์ในอีกไม่กี่วัน อีกทั้งตลาดหุ้นทั่วโลกถูกกดดันหลังจากชาติตะวันตกกำหนดมาตรการคว่ำบาตรที่รุนแรงกับรัสเซีย รวมถึงการขัดขวางไม่ให้ธนาคารกลางรัสเซียใช้ทุนสำรองเงินตราต่างประเทศวงเงิน 6.30 แสนล้านดอลลาร์

นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากการที่ไอเอชเอส มาร์กิต ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการข้อมูลทางการเงิน เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายของยูโรโซนอยู่ที่ 58.2 ในเดือน ก.พ. ลดลงเล็กน้อยจากระดับ 58.7 ในเดือน ม.ค. และต่ำกว่าตัวเลขขั้นต้นที่ 58.4

▪ สำหรับตัวเลขทางเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม ได้เเก่ ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือน ก.พ. ของสหรัฐฯในวันศุกร์นี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 415,000 ตำแหน่ง

▪ เเละนักลงทุนยังจับตานายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ซึ่งมีกำหนดกล่าวแถลงการณ์รอบครึ่งปีว่าด้วยนโยบายการเงินและภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯ ต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ในวันที่ 2 มี.ค. และจะแถลงต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภาในวันที่ 3 มี.ค. โดยการแถลงทั้งสองวันจะเริ่มขึ้นในเวลา 10.00 น.ตามเวลาสหรัฐฯ หรือ 22.00 น.ตามเวลาไทย

Social Share
Facebook
Twitter