Market Watch จับตาดูโลก ประจำวันที่ 4 เมษายน 2565

Table of Contents

▪ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดบวกในวันศุกร์ (1 เม.ย.) หลังการเปิดเผยข้อมูลการจ้างงานเดือน มี.ค. บ่งชี้ว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังคงแข็งแกร่ง แต่ก็ได้ตอกย้ำการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) จะดำเนินการในเชิงรุกมากขึ้นในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อ

Dow Jones  +0.40%

S&P500  +0.34%

Nasdaq +0.29%

หุ้น 8 ใน 11 กลุ่มของดัชนี S&P500 ปิดบวก นำโดยกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ซึ่งเพิ่มขึ้น 2.02% ขณะที่หุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมปรับตัวลงมากที่สุด 0.7% ขานรับกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 431,000 ตำแหน่งในเดือน มี.ค. แม้ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 490,000 ตำแหน่ง ส่วนอัตราการว่างงานปรับตัวลงสู่ระดับ 3.6% ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 3.7%

บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 73.3% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมวันที่ 3-4 พ.ค. หลังจากที่เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในเดือน มี.ค. โดยนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ได้ส่งสัญญาณเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยระบุก่อนหน้านี้ว่า อัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับสูงเกินไป ซึ่งหากจำเป็น เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากกว่า 0.25% ในการประชุมหนึ่งครั้งหรือหลายครั้ง

นอกจากนี้ตลาดยังได้แรงหนุนจากการที่เอสแอนด์พี โกลบอลเปิดเผยในวันศุกร์ว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายของสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 58.8 ในเดือน มี.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือน ส.ค. 2564 และสูงกว่าตัวเลขเบื้องต้นที่ระดับ 58.5 จากระดับ 57.3 ในเดือน ก.พ. โดยดัชนี PMI ที่อยู่เหนือระดับ 50 บ่งชี้ว่า ภาคการผลิตของสหรัฐฯ ยังคงมีการขยายตัว

▪ ตลาดหุ้นยุโรป ปิดปรับตัวขึ้นในวันศุกร์ (1 เม.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์และกลุ่มธนาคาร ซึ่งได้ช่วยบดบังความวิตกเกี่ยวกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจและเงินเฟ้อ ขณะที่ตลาดยุโรปยังคงระมัดระวังเกี่ยวกับภาวะชะงักงันในการนำเข้าก๊าซจากรัสเซีย

Stoxx Europe 600 +0.54%

CAC-40 +0.37%

DAX +0.22%

FTSE 100 +0.30%

ตลาดคลายความกังวลในขณะนี้ หลังจากรัสเซียเปิดเผยว่า จะไม่ยุติการส่งก๊าซจนกว่าจะใช้ระบบชำระเงินใหม่ในปลายเดือน เม.ย. นี้

ทำให้หุ้นกลุ่มธนาคารปรับตัวขึ้น 1.2% โดยหุ้นซานทานเดร์ของสเปน พุ่งขึ้น 2.6% หลังย้ำเป้าหมายความสามารถในการทำกำไรในปี 2565 ส่วนหุ้นกลุ่มเหมืองแร่และกลุ่มน้ำมันนำตลาดปรับตัวขึ้นทันที โดยได้แรงหนุนจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่พุ่งขึ้นจากผลกระทบของสงครามในยูเครน

นักลงทุนยังคงจับตาสถานการณ์ในยูเครนและการเจรจาสันติภาพรอบใหม่ที่เริ่มขึ้นอีกครั้งในวันศุกร์ รวมไปถึงแนวโน้มการดำเนินนโยบายการเงินของธนาคารกลางต่าง ๆ และการเปิดเผยผลประกอบการไตรมาสแรกของบริษัทจดทะเบียน

อย่างไรก็ตามตลาดยังคงวิตกเกี่ยวกับเงินเฟ้อ หลังข้อมูลบ่งชี้ว่าเงินเฟ้อของยูโรโซนพุ่งขึ้นสู่ระดับ 7.5% ในเดือนมี.ค. แตะระดับสูงเป็นประวัติการณ์อีกครั้ง ซึ่งทำให้มีการคาดการณ์กันว่า ธนาคารกลางยุโรป (ECB) อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างเร็วที่สุดในเดือน ก.ค. นี้ และอัตราดอกเบี้ยเงินฝากจะแตะระดับราว 1.5% ภายในสิ้นปี 2566 นอกจากนี้ตลาดได้ปรับตัวรับความเป็นไปได้ที่ ECB จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.60% ภายในสิ้นปีนี้

▪ นักลงทุนยังคงจับตาสถานการณ์สงครามในยูเครนอย่างใกล้ชิด ขณะที่คาดกันว่าผู้เจรจาของรัสเซียและยูเครนจะจัดการประชุมผ่านทางวิดีโอในวันศุกร์ที่ผ่านมา (1 เม.ย.) ทั้งนี้มีรายงานว่ารัสเซียได้ปิดกั้นไม่ให้ขบวนรถที่จะให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเดินทางเข้าไปยังเมืองมาริอูโพล ขณะที่ภาคตะวันออกของยูเครนเตรียมพร้อมรับมือการโจมตีมากขึ้น

Social Share
Facebook
Twitter