Market Watch จับตาดูโลก วันที่ 18 สิงหาคม 2565

Table of Contents

Market Watch จับตาโลกวันนี้ : เมื่อวันพุธ (17 ส.ค.) ตลาดหุ้นสหรัฐฯ และยุโรปปิดลบ เนื่องจากการซื้อขายระหว่างวันเป็นไปอย่างผันผวน จากการที่นักลงทุนรอติดตามรายงานประชุมจาก FED นอกจากนี้ ตลาดหุ้นยังได้รับแรงกดดันจากการที่ตัวเลขเงินเฟ้อในอังกฤษปรับตัวสูงขึ้น ทำให้นักลงทุนกังวลว่า ECB จะขึ้นดอกเบี้ยมากกว่าเดิม

▪ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดลบในวันพุธ (17 ส.ค.) เนื่องจากการซื้อขายระหว่างวันมีความผันผวน โดยนักลงทุนรอติดตามรายงานการประชุมจากธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) ระบุว่า กรรมการเฟดมุ่งมั่นที่จะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เพื่อฉุดเงินเฟ้อให้ลดลงสู่ระดับที่สามารถควบคุมได้

Dow Jones -0.50%

S&P500 -0.72%

Nasdaq -1.25%

ตลาดยังถูกกดดันจากการที่ทาร์เก็ต ซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีกรายใหญ่ของสหรัฐฯ เปิดเผยว่า กำไรสุทธิในไตรมาส 2/2565 ทรุดตัวลงเกือบ 90% สู่ระดับ 183 ล้านดอลลาร์ หรือ 39 เซนต์/หุ้น จากระดับ 1.82 พันล้านดอลลาร์ หรือ 3.65 ดอลลาร์/หุ้น ในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 72 เซนต์/หุ้น เนื่องจากบริษัทต้องปรับลดราคาสินค้า เพื่อระบายสต็อกจำนวนมากที่ยังคงอยู่ในคลังสินค้า ทั้งนี้ ผลประกอบการที่น่าผิดหวังของทาร์เก็ตได้ฉุดกลุ่มค้าปลีกร่วงลงด้วย ได้แก่ หุ้นโฮม ดีโปท์ ปรับตัวลง 0.55%, หุ้นเบสท์ บาย ดิ่งลง 3.17%, หุ้นนอร์ดสตรอม ร่วงลง 3.97% และหุ้นไฟฟ์ บีโลว์ (Five Below) ร่วงลง 2.31%

หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีร่วงลง หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ พุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ โดยหุ้นอัลฟาเบท ร่วงลง 1.77%, หุ้นเน็ตฟลิกซ์ ดิ่งลง 1.85%, ไมโครซอฟท์ ลดลง 0.26%, หุ้นเมตา แพลทฟอร์มส์ ร่วงลง 2.57% และหุ้นแอมะซอน ร่วงลง 1.85%

หุ้นแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พุ่งขึ้น 6.96% หลังมีรายงานว่า อีลอน มัสก์ ทวีตข้อความแสดงความสนใจที่จะซื้อสโมสรฟุตบอลดังกล่าว แต่ในเวลาต่อมานายมัสก์ได้ยอมรับว่า ข้อความดังกล่าวเป็นเพียงคำพูดเล่นเท่านั้น

หุ้นโลว์ส (Lowe’s) ซึ่งเป็นบริษัทจำหน่ายสินค้าตกแต่งบ้านรายใหญ่ของสหรัฐฯ ดีดตัวขึ้น 0.54% หลังบริษัทเปิดเผยกำไรในไตรมาส 2/2565 ที่ระดับ 4.67 ดอลลาร์/หุ้น สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 4.58 ดอลลาร์/หุ้น

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่เปิดเผยเมื่อคืนนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ รายงานว่า ยอดค้าปลีกทรงตัวในเดือน ก.ค. สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.1% หลังจากเพิ่มขึ้น 0.8% ในเดือน มิ.ย. โดยยอดค้าปลีกในเดือน ก.ค. ได้รับผลกระทบจากรายได้ที่ลดลงของสถานีบริการน้ำมัน เนื่องจากการดิ่งลงของราคาพลังงาน

▪ ตลาดหุ้นยุโรป ปิดลดลงในวันพุธ (17 ส.ค.) โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรพุ่งสูงขึ้นตามอัตราเงินเฟ้อในอังกฤษ ทำให้นักลงทุนวิตกว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากขึ้นกว่าเดิม อีกทั้ง การขยายตัวของเศรษฐกิจยังอ่อนแอลงในไตรมาส 2

Stoxx Europe 600 -0.91%

CAC-40 -0.97%

DAX -2.04%

FTSE 100 -0.27%

ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวรับการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.50% ในเดือน ก.ย. ซึ่งมีการดีดตัวขึ้นในเดือน มิ.ย. แต่เผชิญกับปัจจัยลบในเดือน ส.ค. ไม่ว่าจะเป็นภาวะเศรษฐกิจถดถอย และปัญหาหลัก คือ เงินเฟ้อสูง

ในส่วนของหุ้นรายตัวที่ปรับตัวลง ได้แก่ หุ้นยูนิเปอร์ ซึ่งเป็นบริษัทพลังงานของเยอรมนี ร่วงลง 12.1% หลังรายงานผลประกอบการขาดทุนสุทธิ 1.23 หมื่นล้านยูโร (1.25 หมื่นล้านดอลลาร์) ในช่วงครึ่งปีแรก โดยส่วนใหญ่เป็นผลจากปริมาณก๊าซที่ลดลงจากรัสเซีย

หุ้นซาโนฟี ซึ่งเป็นบริษัทด้านเฮลท์แคร์ของฝรั่งเศส ร่วงลง 5.7% หลังยุติการพัฒนายา Amcenestrant ในการรักษาโรคมะเร็งเต้านม หลังจากประสบความล้มเหลวในการทดลองครั้งที่สอง

Social Share
Facebook
Twitter