QM Pattern คืออะไร? สอนทำกำไรด้วย QML Forex

Table of Contents
QM Pattern Forex คือ

เทคนิคการเทรดด้วย QM Pattern ถูกใช้กันอย่างแพร่หลายในตลาดฟอเร็กซ์ ทำให้หลายคนเรียกมันว่า QM Forex โดยการเทรดในรูปแบบนี้จะช่วยให้คุณสามารถระบุโอกาสในกลับตัวของราคาได้ง่าย และมี Win Rate ที่ค่อนข้างสูงกว่าเทคนิคอื่น ๆ ซึ่งในบทความนี้ Traderbobo จะสอนตั้งแต่จุดเริ่มต้นตลอดจนการประยุกต์เพื่อใช้งานจริง

*หมายเหตุ: การลงทุนทุกประเภทมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาให้ดีก่อนตัดสินใจลงทุนทุกครั้ง และการเทรดด้วย QM Pattern จำเป็นต้องมีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับตลาดฟอเร็กซ์ระดับหนึ่ง รวมทั้งควรใช้อินดิเคเตอร์เข้ามาช่วยยืนยันสัญญาณให้แม่นยำมากขึ้น

. . . . . . . . . . . . . .

QM Pattern คืออะไร?

QM Pattern คือ

QM Pattern คือ รูปแบบที่ราคามีโอกาสกลับตัวสูงที่สุด ซึ่งถูกจัดเป็นหนึ่งใน Price Pattern ขั้นสูง และอ้างอิงโครงสร้างราคามาจากทฤษฎี Dow Theory

“ราคาจะทำ Low ที่ต่ำกว่า Low ก่อนหน้า (Lower Low) หรือ High ที่สูงกว่า High ก่อนหน้า (Higher High)”

ทำให้มีลักษณะคล้ายกับ Head and Shoulder แต่ QM Pattern จะมีไหล่ที่ไม่เท่ากัน

QM Forex คืออะไร?

QM Forex มีความหมายเดียวกับ QM Pattern แต่ด้วยความที่ QM ถูกนำมาเป็นเทคนิคขั้นสูงในการเทรด Forex จึงทำให้หลายคนเรียกมันว่า QM Forex

รู้หรือไม่? QM ย่อมาจาก Quasimodo Pattern

QM ย่อมาจาก Quasimodo (อ่านว่า ควอซีโมโด) คือ ชื่อตัวละครในวรรณกรรมเรื่อง The Hunchback of Notre-Dame ช่วงศตวรรษที่ 15 โดยลักษณะของตัวละคร Quasimodo เป็นชายหลังค่อมที่มีรูปร่างไม่สมประกอบ “เขามีไหล่ซ้ายและขวาไม่เท่ากัน ข้างหนึ่งสูงและข้างหนึ่งต่ำ” ซึ่งมีความคล้ายคลึงกับรูปแบบของ QM Pattern อย่างเห็นได้ชัดเจน

QM ย่อมาจาก Quasimodo Pattern

รูปภาพจาก Silidragos

📢 QM Pattern ประกอบด้วยไหล่ซ้าย ศีรษะ และไหล่ขวา ซึ่งไหล่ซ้ายเป็นขั้นตอนแรกในการสร้างฐานของ QM โดยจะต้องเกิดขึ้นหลังจากที่ราคาเกิดแนวโน้มแล้วเท่านั้น ดังนั้น ระดับของไหล่ซ้ายจึงสามารถบ่งบอกถึงช่วงเวลาของการรวมฐานและความไม่แน่ใจในตลาดได้ หรือ “Left Shoulder Level คือ จุดสำคัญที่สามารถบ่งบอกว่า ราคาจะเกิดการกลับตัวหรือไม่?”

ข้อดี

  • บ่งบอกถึงโอกาสการกลับตัวของราคาได้อย่างแม่นยำ
  • สามารถใช้กับทุกสินทรัพย์
  • สามารถใช้ได้กับทุกสภาวะตลาด แต่ไม่ใช่ในช่วงที่มีความผันผวนสูง

ข้อจำกัด

  • ไม่เหมาะกับช่วงที่ตลาดมีความผันผวนสูง
  • อาจพบรูปแบบ QM ได้ยาก
  • แนะนำให้ใช้เทคนิคอื่น หรืออินดิเคเตอร์ช่วยในการยืนยันสัญญาณ

📢 Traderbobo แนะนำ

ถึงแม้ QM Pattern จะให้สัญญาณการกลับตัวที่ค่อนข้างแม่นยำ แต่ก็สามารถพบเจอได้ค่อนข้างยาก ดังนั้น การใช้เทคนิคอื่น ๆ ร่วมด้วย จะช่วยเพิ่มโอกาสในการทำกำไรของคุณให้สูงมากยิ่งขึ้น 📊

ก่อนที่เราจะเข้าสู่เทคนิค QM Pattern กันเต็ม ๆ ลองมาทำความรู้จักกับคำศัพท์ต่าง ๆ กันก่อนดีกว่าครับ เพราะเทคนิคนี้มีการใช้ตัวย่อบอกตำแหน่งราคาหลายตัว ซึ่งอาจทำให้เทรดเดอร์มือใหม่สับสนได้ ดังนั้น ตารางด้านล่างนี้จะอธิบายความหมายของแต่ละคำย่อที่สำคัญที่คุณต้องรู้

คำศัพท์ความหมาย
Higher High ตัวย่อ HHตำแหน่งสูงสุดที่ราคาเคลื่อนตัวไปถึงในแนวโน้มขาขึ้น
Higher Low ตัวย่อ HLตำแหน่งต่ำสุดที่ราคาลงไปแตะในแนวโน้มขาขึ้น
Lower High ตัวย่อ LHตำแหน่งสูงสุดที่ราคาเคลื่อนตัวไปถึงในแนวโน้มขาลง
Lower Low ตัวย่อ LLตำแหน่งต่ำสุดที่ราคาลงไปแตะในแนวโน้มขาลง
TPTake Profit จุดตัดระดับราคาที่หวังทำกำไร
SLStop Loss จุดตัดขาดทุน ใช้ป้องกันการขาดทุนกรณีที่ราคาเคลื่อนไหวไปในทิศทางที่ไม่ทำกำไร

*หมายเหตุ : เทรดเดอร์สามารถดูตัวอย่างการใช้งาน QM Pattern ในการเทรดบนกราฟจริง ได้ที่ การเทรดโดยใช้ QM Pattern

QM Pattern มีกี่แบบ?

QM Pattern มีอยู่ 2 แบบ ได้แก่ Bullish QM Pattern และ Bearish QM Pattern ซึ่งในหัวข้อนี้ Traderbobo จะนำเสนอตัวอย่าง พร้อมวิธีดู QM Pattern รูปแบบต่าง ๆ รวมถึงการหาจุดเข้าซื้อขายไว้ด้วยครับ โดยมีรายละเอียดดังนี้

QM Pattern Forex มีกี่แบบ

*หมายเหตุ: ควรใช้เทคนิคอื่น ๆ และอินดิเคเตอร์ร่วมกับ QM Pattern เพื่อยืนยันสัญญาณเข้าซื้อขายให้แม่นยำมากขึ้น

Bullish QM Pattern คือ

Bullish QM Pattern คือ รูปแบบการกลับตัวของราคาที่บ่งบอกว่า มีโอกาสสูงที่ราคาจะเปลี่ยนเป็นแนวโน้มขาขึ้น (Uptrend)

*หมายเหตุ: Bullish QM Pattern มักเกิดที่บริเวณ Demand Zone เพราะเป็นบริเวณที่มีแรงซื้อเข้ามาหนุนราคา

วิธีดู Bullish QM Pattern

  1. ราคาจะลงมาถึงจุดที่เกิด LL และขึ้นไปทำ HH หลังเกิดแนวโน้มขาลง
  2. หลังจากที่ราคาทำ HH แล้วจะมีการลงมาทดสอบที่ระดับ L หรือไหล่ซ้าย ซึ่งเป็น Left Shoulder Level แต่ไม่สามารถทะลุลงไปได้ ดังนั้น เปิดออเดอร์ Buy จะได้เปรียบมากกว่า
  3. หลังจากนั้นราคาจะมีโอกาสสูงที่จะกลับตัวเป็น “แนวโน้มขาขึ้น”

วิธีหา Buy Signal

จุดที่ดีที่สุดในการเปิดออเดอร์ Buy คือ ไหล่ขวา หรือหลังจากที่ราคาขึ้นไปทำ HH แล้วลงมาทดสอบระดับ Left Shoulder Level แต่ไม่สามารถทะลุลงมาได้

วิธีตั้ง TP และ SL

  • จุดที่ดีที่สุดในการตั้ง SL คือ ใต้ราคาที่ทำ LL
  • จุดที่ดีที่สุดในการตั้ง TP คือ ระดับราคาเดียวกับจุดที่ทำ HH

Bearish QM Pattern คือ

Bearish QM Pattern คือ รูปแบบการกลับตัวของราคาที่บ่งบอกว่า มีโอกาสสูงที่ราคาจะเปลี่ยนเป็นแนวโน้มขาลง (Downtrend)

*หมายเหตุ: Bearish QM Pattern มักเกิดที่บริเวณ Supply Zone (บริเวณที่มีแนวโน้มจากแรงขาย)

วิธีดู Bearish QM Pattern

  • ราคาจะขึ้นไปถึงจุดที่เกิด HH และลงมาจนเกิด LL หลังเกิดแนวโน้มขาขึ้น
  • หลังจากที่ราคาทำ LL แล้วจะขึ้นไปทดสอบที่ระดับ H หรือไหล่ซ้าย ซึ่งเป็น Left Shoulder Level แต่ไม่สามารถทะลุขึ้นไปได้ ดังนั้น เปิดออเดอร์ Sell จะได้เปรียบมากกว่า
  • หลังจากนั้นราคามีโอกาสสูงที่จะกลับตัวเป็น “แนวโน้มขาลง”

วิธีหา Sell Signal

จุดที่ดีที่สุดในการเปิดออเดอร์ Sell คือ ไหล่ขวา หรือหลังจากที่ราคาลงมาทำ LL แล้วขึ้นไปทดสอบระดับ Left Shoulder Level แต่ไม่สามารถทะลุขึ้นไปได้

วิธีตั้ง TP และ SL

  • จุดที่ดีที่สุดในการตั้ง TP คือ ระดับราคาเดียวกับจุดที่ทำ LL
  • จุดที่ดีที่สุดในการตั้ง SL คือ บนระดับราคาที่ทำจุด HH

. . . . . . . . . . . . . .

QML Pattern คืออะไร? เทคนิคเพิ่มพลังให้ QM

QML Pattern คือ

โดยปกติการใช้ QM Pattern จะมี Win Rate ที่ค่อนข้างสูงอยู่แล้วโดยเฉพาะการเทรดตามเทรนด์ แต่หากคุณใช้ QM + Demand Zone หรือ Supply Zone จะช่วยให้การวิเคราะห์แม่นยำมากขึ้น รวมถึงบ่งบอกว่า แนวโน้มที่กำลังจะเกิดขึ้นนั้นมีความแข็งแกร่ง

QML Pattern คืออะไร?

QML ย่อมาจาก Quasimodo Level คือ การใช้ QM Pattern ร่วมกับ Zone โดย QML จะสร้าง MPL (Maximum Pain Level) หรือ Demand Zone และ Supply Zone ขึ้นมาบริเวณไหล่ซ้ายก่อนที่ราคาจะทำ LL หรือ HH

Demand Zone คืออะไร?

Demand Zone คือ ช่วงที่ราคาลงมาถึงแล้วแต่มักจะถูกรับเอาไว้ ทำให้ราคาหยุดปรับตัวลงและกลับตัวขึ้นอีกครั้ง โซนนี้จึงมักเป็นสัญญาณว่ามีผู้เล่นรายใหญ่ หรือกลุ่ม Smart Money ได้เข้ามาเก็บตกออเดอร์ที่คงค้างของเทรดเดอร์รายย่อยในโซนดังกล่าว ส่งผลให้เกิดแรงดันราคาขึ้น ซึ่งมีลักษณะคล้ายแนวรับ

Supply Zone คืออะไร?

Supply Zone คือ ช่วงที่ราคาขึ้นไปถึงแล้วแต่มักจะถูกต้านเอาไว้ ทำให้ราคาหยุดและกลับตัวลงอีกครั้ง เนื่องจากโซนนี้มีผู้เล่นรายใหญ่เทขายจำนวนมาก ส่งผลให้เกิดแรงกดราคาลง และมีลักษณะคล้ายกับแนวต้าน

📢 แม้จะมีความคล้ายคลึงกับแนวรับ-แนวต้าน แต่ Demand Zone และ Supply Zone ของ QML Pattern มีความแม่นยำมากกว่า เพราะโซนดังกล่าวถูกอ้างอิงจากโซนคำสั่งขายที่เกิดขึ้นจริง

การใช้ QML Pattern คู่กับ Demand Zone

ณ จุด L ราคามีการสร้าง QML และเป็นจุดที่เกิด Demand Zone โดยเราจะทำกำไรจากการรอให้ราคาวิ่งลงมาจาก HH จนถึง Left Shoulder Level หรือระดับเดียวกับจุด L และ Demand Zone จากนั้นเมื่อมีสัญญาณคอนเฟิร์มเกิดขึ้น สามารถเปิดออเดอร์ Buy เพื่อความได้เปรียบ และตั้ง SL ไว้ที่ใต้จุด LL

การใช้ QML Pattern คู่กับ Supply Zone

ณ จุด H ราคามีการสร้าง QML และเป็นจุดที่เกิด Supply Zone โดยเราจะทำกำไรจากการรอให้ราคาวิ่งขึ้นมาจาก LL จนถึง Left Shoulder Level หรือระดับเดียวกับจุด H และ Supply Zone จากนั้นเมื่อมีสัญญาณคอนเฟิร์มเกิดขึ้น สามารถเปิดออเดอร์ Sell เพื่อความได้เปรียบ และตั้ง SL ไว้ที่บนจุด HH

การเทรดบนกราฟจริงโดยใช้ QM Pattern

เมื่อเทรดเดอร์ทราบการของการใช้ QM Pattern เรียบร้อยแล้ว ในหัวข้อนี้พี่โบ้จะพาทุกท่านมาดูการใช้งาน QM Pattern บนกราฟจริงกันครับ โดยในการเทรดผ่านเทคนิคดังกล่าวพี่โบ้จะขอแบ่งออกเป็น 3 Step ง่าย ๆ ได้แก่ 1.การหาโครงสร้างราคา, 2.การหาจุดเข้าเทรด และ 3.วิธีตั้ง SL/TP

Step 1 การหาโครงสร้างราคาของ QM Pattern

  • แนวโน้มก่อนหน้าอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น หรือ Uptrend
  • จากนั้นราคาทำจุด HH และ HL ตามลำดับ
  • จากนั้นราคาทำจุด LL แสดงว่าแนวโน้มเริ่มเปลี่ยน

Step 2 การหาตำแหน่งเข้าเทรดที่เหมาะสม

  • พื้นที่สีส้มในภาพคือ QML Supply Zone หรือ แนวต้านของ Left Shoulder จุดนี้จึงเป็นจุดที่เทรดเดอร์ส่วนใหญ่มองหาโอกาส Sell เพราะราคามักกลับขึ้นมาทดสอบแนวนี้ก่อนกลับตัวลง
  • ให้หาจังหวะเปิดออเดอร์เมื่อกราฟราคาพุ่งขึ้นสัมผัสตำแหน่งดังกล่าวแล้วเริ่มมีสัญญาณกลับตัวของกราฟราคา จากภาพกราฟแสดงรูปแบบขาลงจึงเปิดออเดอร์ Sell

Step 3 วิธีตั้ง ST และ TP เพื่อป้องกันความเสี่ยง

  • วาง Stop Loss ไว้เหนือตำแหน่ง Head เล็กน้อย เพื่อจำกัดความเสี่ยง
  • วาง Take Profit ไว้ด้านล่างบริเวณที่เป็นตำแหน่ง Low เดิมของ Right Shoulder

เช็กสัญญาณด้วย QM Pattern Indicator

📢 Quasimodo Pattern เป็นรูปแบบกราฟที่เชื่อถือได้และมี Win Rate สูงมากกว่ารูปแบบอื่น ๆ แต่เทรดเดอร์จำเป็นต้องมีการยืนยันสัญญาณทุกครั้งก่อนเข้าซื้อขาย เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่จะตามมา ดังนั้น การใช้อินดิเคเตอร์ (Indicator) เข้ามาช่วยถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีครับ

. . . . . . . . . . . . . .

สรุปการเทรด Forex ด้วย QM Pattern

QM Pattern คือ Price Pattern รูปแบบหนึ่งที่เป็นมากกว่าสัญญาณ แต่ QML ขั้นสูงช่วยยืนยันแนวโน้ม และสื่อถึงความลำเอียงของเทรดเดอร์ ทำให้ QM เป็นแพตเทิร์นกราฟมี Win Rate ที่สูงที่สุดในตลาด โดย QM ย่อมาจาก Quasimodo เป็นชื่อตัวละครชายหลังค่อมที่มีรูปร่างไม่สมประกอบ ทำให้ไหล่ซ้ายและขวาไม่เท่ากัน ข้างหนึ่งสูงและข้างหนึ่งต่ำ ซึ่งมีรูปร่างคล้ายกับลักษณะของกราฟ QM

องค์ประกอบหลักของ QM มีอยู่ 3 องค์ประกอบ ได้แก่ ไหล่ซ้าย ศีรษะ และไหล่ขวา โดยไหล่ซ้ายเป็นขั้นตอนแรกในการสร้างฐานของ QM และถือเป็นระดับสำคัญที่เทรดเดอร์ต้องให้ความสำคัญ อีกทั้ง QM ยังสามารถเกิดได้ 2 รูปแบบ คือ Bullish QM Pattern และ Bearish QM Pattern โดยมีรายละเอียดดังนี้

  • Bullish QM Pattern คือ รูปแบบการกลับตัวของกราฟที่บ่งบอกว่า มีโอกาสสูงที่ราคาจะเปลี่ยนเป็นแนวโน้มขาขึ้น (Uptrend)
  • Bearish QM Pattern คือ รูปแบบการกลับตัวของกราฟที่บ่งบอกว่า มีโอกาสสูงที่ราคาจะเปลี่ยนเป็นแนวโน้มขาลง (Downtrend)

อย่างไรก็ตาม แม้ว่า QM Pattern จะค่อนข้างมีความแม่นยำและความน่าเชื่อถือในการวิเคราะห์ แต่ควรใช้เทคนิคหรืออินดิเคเตอร์เข้ามาช่วยยืนยันสัญญาณ รวมถึงการเพิ่มโอกาสทำกำไรให้แม่นยำมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ บทความนี้เป็นเพียงการให้ความรู้เท่านั้น ซึ่งการลงทุนล้วนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาให้ดีก่อนคิดจะลงทุน

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการใช้ QM Pattern Forex และ QML

QM Buy และ QM Sell คืออะไร?

  • QM Buy คือ รูปแบบของกราฟราคาที่บ่งบอกถึง แนวโน้มของราคาที่มีโอกาสกลับตัวขึ้น
  • QM Sell คือ รูปแบบของกราฟราคาที่บ่งบอกถึง แนวโน้มของราคาที่มีโอกาสกลับตัวลง

QM Pattern เหมาะกับมือใหม่ไหม?

มือใหม่สามารถใช้ QM Pattern ได้ หากเข้าใจโครงสร้างของตลาด และ BOS ได้เป็นอย่างดีครับ

QM Pattern สามารถใช้บน Timeframe ไหนได้บ้าง?

QM Pattern สามารถใช้ได้กับทุก TF ครับ แต่ส่วนมากจะนิยมใช้เทรดกับกรอบเวลาที่มีขนาดใหญ่ตั้งแต่ H4 ขึ้นไป เพราะเกิดสัญญาณหลอกที่น้อยกว่ากรอบเวลาขนาดเล็ก

การใช้ QM Pattern จำเป็นต้องใช้ร่วมกับ Demand/Supply Zone ไหม?

ไม่จำเป็นครับ แต่การใช้ร่วมกับ Demand/Supply Zone จะช่วยเพิ่มความแม่นยำในการใช้งาน QM Pattern มากขึ้น เพราะ QM Level มักทับกับขอบของกรอบ Demand/Supply Zone ที่ยังไม่ถูกทดสอบ ทำให้เป็นบริเวณที่ยังมีคำสั่งซื้อ-ขายตกค้างอยู่ โซนเหล่านี้จึงให้จุดเข้าเทรดที่แม่นยำและมีโอกาสกลับตัวสูงครับ


อ่านบทความอื่น ๆ เพิ่มเติม: สาระน่ารู้

พูดคุยและติดตาม Real Time: Facebook Page

Social Share
Facebook
Twitter
Picture of Traderbobo
Traderbobo

นักลงทุนในตลาด Forex และสินทรัพย์ทางการเงินด้วยประสบการณ์กว่า 10 ปี มุ่งเน้นการนำเสนอเนื้อหาที่เข้าใจง่าย พร้อมแบ่งปันความรู้และกลยุทธ์การเทรด เพื่อช่วยให้คุณประสบความสำเร็จในโลกการเงิน เหมาะสำหรับทั้งเทรดเดอร์มือใหม่และมืออาชีพ