เมื่อวานนี้ (20 มี.ค.) รัสเซียได้โจมตีคลังน้ำมันแห่งหนึ่งในยูเครนด้วยขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียง Kinzhal ซึ่งเป็นการยิงมาจากน่านฟ้าของไครเมียยูเครน และมีการใช้ขีปนาวุธร่อนคาลีบร์ที่ยิงจากเรือที่อยู่ในทะเลดำไปยังโรงงานนีซิน ซึ่งเป็นที่ซ่อมยานเกราะ
การโจมตีดังกล่าว ถือเป็นวันที่สองติดต่อกันที่รัสเซียใช้ขีปนาวุธ Kinzhal ซึ่งสามารถโจมตีเป้าหมายได้ไกลถึง 2,000 กม. (1,240 ไมล์) และสามารถบินได้เร็วกว่า 6,000 กม./ชม. ด้วยความเร็ว 10 เท่าของเสียง โดยกองทัพรัสเซียเผยว่า ได้ใช้ขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียง Kinzhal เป็นครั้งแรก ในภารกิจเพื่อทำลายคลังแสงทางตะวันตกของยูเครน
รัสเซียเป็นผู้นำโลกในเรื่องขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียง ซึ่งความเร็ว ความคล่องแคล่วหลบหลีก และความสูงนั้น ทำให้ยากต่อการติดตามและยับยั้ง ขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียง Kinzhal นี้ เป็นรู้จักในชื่อ ‘Dagger’ หรือมีดสั้น เป็นขีปนาวุธชนิดหนึ่งของกองทัพรัสเซีย ที่ทางประธานาธิบดีปูตินเคยกล่าวยกย่องไว้ โดย Kinzhal นั้นเป็นขีปนาวุธที่สามารถบินด้วยความเร็วกว่าเสียงสูงถึง 5-10 เท่า (ประมาณ 6,172 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) เรียกได้ว่าเป็น “ขีปนาวุธล่องหน”
✅ อย่างไรก็ตามบรรดาผู้เชี่ยวชาญด้านการทหารของชาติตะวันตกมองว่า รัสเซียอาจกล่าวเกินจริง และบางคนมองว่า ขีปนาวุธ Kinzhal นี้ไม่ได้ทำให้รัสเซียมีข้อได้เปรียบทางยุทธศาสตร์ แต่เป็นเรื่องของความได้เปรียบทางจิตวิทยา เพื่อข่มขวัญคู่ต่อสู้มากกว่า
อ้างอิง :