Market Watch จับตาดูโลก ประจำวันที่ 23 มีนาคม 2565

Table of Contents

▪ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดพุ่งขึ้นกว่า 200 จุดในวันอังคาร (22 มี.ค.) ขณะที่ดัชนี Nasdaq ดีดตัวขึ้นเกือบ 2% เนื่องจากนักลงทุนช้อนซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี นอกจากนี้ตลาดยังได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนปรับตัวรับถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) ที่ส่งสัญญาณเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย รวมทั้งรายงานผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทไนกี้

Dow Jones  +0.74%

S&P500 +1.13%

Nasdaq +1.95%

แม้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ร่วงลงเมื่อวันจันทร์หลังจากประธานเฟดส่งสัญญาณว่า เฟดอาจจะเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ แต่ดูเหมือนว่าขณะนี้นักลงทุนเริ่มปรับตัวรับสัญญาณดังกล่าวแล้ว และมองว่าสิ่งที่ควรทำในขณะนี้คือเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด แต่ก็คาดหวังในสิ่งที่ดีที่สุด

ทั้งนี้นายพาวเวลได้กล่าวในการประชุมสมาคมเศรษฐกิจธุรกิจแห่งชาติของสหรัฐฯ เมื่อวันจันทร์ว่า ตลาดแรงงานของสหรัฐน มีความแข็งแกร่งมาก และอัตราเงินเฟ้อก็อยู่ในระดับสูงมากเกินไป ด้วยเหตุนี้เฟดจึงต้องสร้างความเชื่อมั่นว่าตัวเลขเงินเฟ้อจะกลับมามีเสถียรภาพอีกครั้ง และหากเห็นว่าจำเป็น เฟดก็จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากกว่า 0.25% ในการประชุมครั้งหนึ่งหรือหลายครั้ง

นักลงทุนช้อนซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและการสื่อสาร หลังจากราคาหุ้นร่วงลงอย่างหนักเมื่อวันจันทร์ อันเนื่องมาจากการส่งสัญญาณเร่งปรับขึ้นดอกเบี้ยของนายพาวเวล โดยหุ้นเมตา แพลตฟอร์มส พุ่งขึ้น 2.44% หุ้นอัลฟาเบท พุ่งขึ้น 2.77% ห้นแอปเปิล เพิ่มขึ้น 2.08% หุ้นไมโครซอฟท์ เพิ่มขึ้น 1.64% หุ้นเน็ตฟลิกซ์ พุ่งขึ้น 2.22% หุ้นทวิตเตอร์ ทะยานขึ้น 2.63% เเละหุ้นเทสลา ทะยานขึ้น 7.91% ขานรับรายงานที่ว่า บริษัทเทสลาได้เริ่มส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้าล็อตแรกที่ผลิตในโรงงานเมืองกรุนไฮเดอ ประเทศเยอรมนี

หุ้นกลุ่มธนาคารดีดตัวขึ้นหลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปีพุ่งขึ้นเหนือระดับ 2.3% เมื่อคืนนี้ โดยหุ้นโกลด์แมน แซคส์ ดีดขึ้น 1.18% หุ้นมอร์แกน สแตนลีย์ เพิ่มขึ้น 1.74% หุ้นเจพีมอร์แกน พุ่งขึ้น 2.13% หุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา เพิ่มขึ้น 3.1% หุ้นเวลส์ ฟาร์โก ทะยานขึ้น 4.4%

หุ้นไนกี้ พุ่งขึ้น 2.23% หลังบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่ดีเกินคาดในไตรมาส 3 ของปีงบการเงินที่สิ้นสุดวันที่ 28 ก.พ. 2565 โดยได้แรงหนุนจากอุปสงค์ที่แข็งแกร่งในอเมริกาเหนือ

▪ ตลาดหุ้นยุโรป ปิดปรับตัวขึ้นในวันอังคาร (22 มี.ค.) โดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มธนาคารที่ปรับตัวขึ้นขานรับแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเชิงรุก หลังนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) แสดงความเห็นว่า อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากกว่า 0.25% หากจำเป็นเพื่อสกัดกั้นเงินเฟ้อ

Stoxx Europe 600 +0.85%

CAC-40 +1.17%

DAX +1.02%

FTSE 100 +0.46%

นอกจากนี้นักลงทุนยังปรับตัวรับแนวโน้มที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยราว 0.50% ภายในสิ้นปีนี้

หุ้นรายตัวปรับตัวขึ้นหนุนตลาด อาทิ หุ้นจัสต์อีต เทคอะเวย์.คอมของเนเธอร์แลนด์ พุ่งขึ้น 3.2% หลังจับมือกับบริษัทแมคโดนัลด์ คอร์ปเพื่อขยายธุรกิจส่งอาหาร

หุ้นลีโอนาร์โดซึ่งเป็นบริษัทด้านการบินและอวกาศของอิตาลี ปรับตัวขึ้น 0.4% หลังบริษัทดีอาร์เอสซึ่งเป็นบริษัทในเครือที่สหรัฐตกลงที่ขายธุรกิจ GES to SES ซึ่งเป็นธุรกิจสื่อสารดาวเทียมเป็นเงิน 450 ล้านดอลลาร์

หุ้นเอสเอพีซึ่งเป็นบริษัทผลิตซอฟต์แวร์ของเยอรมนี พุ่ง 0.6% หลังประกาศร่วมมือกับบริษัทบอสตัน คอนซัลติ้ง กรุ๊ป เพื่อช่วยเหลือบริษัทรายใหญ่ ๆ ของโลกในการยกเครื่องกลยุทธ์ทางธุรกิจและเร่งความพยายามในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์

▪ นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงยอดขายบ้านใหม่เดือน ก.พ., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือน ก.พ., ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นต้นเดือน มี.ค. จากมาร์กิต, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นต้นเดือน มี.ค. จากมาร์กิต, ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือน ก.พ. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน มี.ค. จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน

Social Share
Facebook
Twitter
บทความน่าสนใจ
Adsense
Table of Contents
บทความน่าสนใจ
Adsense