ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดบวกในวันจันทร์ (6 มิ.ย.) ขานรับข่าวจีนประกาศผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิด-19 ในกรุงปักกิ่ง อย่างไรก็ดี ตลาดปรับตัวขึ้นเพียงเล็กน้อย เนื่องจากนักลงทุนยังคงกังวลว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) จะเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เพื่อสกัดเงินเฟ้อ
Dow Jones +0.05%
S&P500 +0.31%
Nasdaq +0.40%
ทอม เอสเซย์ นักวิเคราะห์จากบริษัทเซเวนส์ รีพอร์ทกล่าวว่า การที่จีนเริ่มเปิดประเทศทำให้นักลงทุนมีความหวังว่า เศรษฐกิจจีนจะกลับมาขยายตัวได้ดีอีกครั้งในไม่ช้านี้ และจะทำให้ปัญหาห่วงโซ่อุปทานเริ่มบรรเทาลง ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนเศรษฐกิจทั่วโลกรวมถึงสหรัฐฯ และยุโรปให้ฟื้นตัวขึ้นด้วย
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและการสื่อสารดีดตัวขึ้น โดยหุ้นแอปเปิล บวก 0.52%, หุ้นอัลฟาเบท พุ่งขึ้น 1.99%, หุ้นเมตา แพลตฟอร์มส พุ่งขึ้น 1.82% และหุ้นแอมะซอน ปรับตัวขึ้น 1.99%
หุ้นบริษัทพลังงานโซลาร์เซลล์พุ่งขึ้น หลังมีรายงานว่าประธานาธิบดีโจ ไบเดน เตรียมใช้อำนาจประธานาธิบดีออกคำสั่งคุ้มครองการนำเข้าอุปกรณ์เกี่ยวกับพลังงานแสงอาทิตย์ หรือแผงโซลาร์เซลล์จากไทย มาเลเซีย เวียดนาม และกัมพูชา โดยจัดให้เป็นสินค้าปลอดภาษีนำเข้าเป็นเวลา 24 เดือน
ทั้งนี้ Sunrun พุ่งขึ้น 5.94%, หุ้น SunPower ดีดขึ้น 2.72%, หุ้น Enphase Energy พุ่งขึ้น 5.41%, หุ้น SolarEdge Technology พุ่งขึ้น 2.86% และหุ้น Array Technologies ทะยานขึ้น 18%
อย่างไรก็ดี นักลงทุนยังคงกังวลว่า ปัญหาเงินเฟ้อและตัวเลขจ้างงานที่แข็งแกร่งเกินคาดของสหรัฐฯ จะผลักดันให้เฟดเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยนักลงทุนจับตาการประชุมเฟดในวันที่ 14-15 มิ.ย. ซึ่งคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมดังกล่าว รวมทั้งในการประชุมเดือน ก.ค. เพื่อสกัดเงินเฟ้อ
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือน พ.ค. ของสหรัฐฯ ในวันศุกร์นี้ ขณะที่นักวิเคราะห์จากบริษัทเนชันแนล ซิเคียวริตีส์ คาดการณ์ว่า ดัชนี CPI ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค จะเพิ่มขึ้น 8.2% ซึ่งชะลอตัวลงจากเดือน เม.ย. ที่ขยายตัว 8.3%
ตลาดหุ้นยุโรป ปิดปรับตัวขึ้นในวันจันทร์ (6 มิ.ย.) โดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มธนาคาร และกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ ขณะที่นักลงทุนยังคงจับตาการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐฯ และการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในสัปดาห์นี้
Stoxx Europe 600 +0.92%
CAC-40 +0.98%
DAX +1.34%
FTSE 100 +1.00%
หุ้นกลุ่มธนาคารซึ่งได้ประโยชน์จากภาวะอัตราดอกเบี้ยที่ระดับสูง เพิ่มขึ้น 1.4% และหุ้นกลุ่มเหมืองแร่เพิ่มขึ้น 2.0% ขณะที่หุ้นกลุ่มสินค้าหรูหราทะยานขึ้นด้วย โดยได้แรงหนุนจากอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นจากจีน และปรับตัวขึ้นหลังจากทางการจีนผ่อนคลายข้อจำกัดการควบคุมโรคโควิด-19 ในปักกิ่งและเซี่ยงไฮ้
นักวิเคราะห์รายหนึ่งระบุว่า ตลาดได้แรงหนุนจากการที่จีนผ่อนคลายมาตรการควบคุมโรคโควิด-19 และการเปิดเผยข้อมูลการจ้างงานที่แข็งแกร่งในสัปดาห์ที่ผ่านมาได้คลายความวิตกที่ว่า การคุมเข้มนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) จะทำให้เศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอย
บรรดานักลงทุนจะจับตาการประชุม ECB ในวันพฤหัสบดีนี้ (9 มิ.ย.) ซึ่งคาดว่าอีซีบีจะยืนยันยุติการซื้อพันธบัตรในเดือนนี้ และนักลงทุนจะมองหาสัญญาณบ่งชี้อัตราการปรับขึ้นดอกเบี้ย โดยนักลงทุนส่วนใหญ่คาดว่า ECB จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมครั้งหนึ่งภายในเดือน ต.ค. ปีนี้
นอกจากนี้ นักลงทุนจะรอการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อจากสหรัฐฯ ในวันศุกร์นี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ ด้วย