ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดร่วงลงอย่างหนักในวันพุธ (23 ก.พ.) โดยยังคงถูกกดดันจากวิกฤตการณ์รัสเซีย-ยูเครน ขณะที่ยูเครนประกาศภาวะฉุกเฉินแล้ว และสหรัฐฯ ระบุว่า มีแนวโน้มที่รัสเซียจะบุกโจมตียูเครนในไม่ช้านี้ เเละเมื่อเช้านี้ Dow Jones ดิ่งลงกว่า 700 จุด เนื่องจากรัสเซียได้ตัดสินใจที่จะเปิดฉากปฏิบัติการทางทหารพิเศษ
Dow Jones -1.38%
S&P500 -1.84%
Nasdaq -2.57%
ซึ่งหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีสารสนเทศถ่วงดัชนี S&P500 ลงมากที่สุด ในปีนี้ดัชนี Nasdaq ร่วงลงกว่า 15% แล้ว ขณะที่ดัชนี S&P500 เข้าสู่การปรับฐานเมื่อวันอังคาร โดยร่วงลงมากกว่า 10% นับตั้งแต่ปิดตลาดวันที่ 3 ม.ค. ที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์
สถานการณ์วิกฤตรัสเซีย-ยูเครน ล่าสุดวุฒิสภารัสเซียมีมติเป็นเอกฉันท์อนุมัติให้ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน สามารถใช้กองทัพรัสเซียนอกประเทศได้เพื่อให้การสนับสนุนกลุ่มแบ่งแยกดินแดนในยูเครน
กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุว่า สหรัฐฯ ยังไม่เห็นสัญญาณใด ๆ ที่แสดงว่ารัสเซียจะล่าถอย ขณะที่ทำเนียบขาวระบุว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ไม่มีความตั้งใจที่จะส่งทหารสหรัฐฯ ไปสู้รบในยูเครน
สถานการณ์ตอนนี้รัสเซียได้เริ่มอพยพเจ้าหน้าที่ออกจากสถานทูตรัสเซียในกรุงเคียฟ เมืองหลวงของยูเครน ซึ่งเป็นอีกสัญญาณที่บ่งชี้ว่า รัสเซียอาจจะบุกโจมตียูเครน แม้ชาติตะวันตกได้ประกาศมาตรการคว่ำบาตรต่อการที่รัสเซียส่งทหารเข้าควบคุมสองแคว้นทางตะวันออกของยูเครนหลังให้การรับรองเอกราช
ตลาดหุ้นยุโรป ปิดลดลงในวันพุธ (23 ก.พ.) โดยยังคงถูกกดดันจากความตึงเครียดทางการเมืองเกี่ยวกับวิกฤตรัสเซีย-ยูเครน ซึ่งบดบังปัจจัยบวกจากการเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียน
Stoxx Europe 600 -0.28%
CAC-40 -0.10%
DAX -0.42%
FTSE 100 +0.05%
ตลาดยังคงถูกกดดันจากความวิตกเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างรัสเซียและยูเครน หลังรัสเซียส่งทหารเข้าไปยังสองแคว้นทางตะวันออกของยูเครนซึ่งรัสเซียประกาศรับรองความเป็นเอกราชเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ขณะที่สหภาพยุโรป, อังกฤษ และสหรัฐฯ ได้ประกาศคว่ำบาตรรัสเซียในวันอังคาร
การเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซาส่งผลกระทบต่อตลาดด้วย โดยสถาบัน GfK ของเยอรมนีเปิดเผยในวันพุธว่า ความเชื่อมั่นผู้บริโภคในเยอรมนีคาดว่าจะปรับตัวลดลงในเดือน มี.ค. เนื่องจากยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงต้นเดือน ก.พ. และความวิตกเกี่ยวกับเงินเฟ้อบดบังการคาดการณ์ในเชิงบวก
แต่การเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งหนุนหุ้นรายตัวปรับตัวขึ้น โดยหุ้นธนาคารบาร์เคลย์ส พุ่งขึ้น 3.1% หลังรายงานผลกำไรทั้งปีเพิ่มขึ้นเกือบ 3 เท่า เนื่องจากหนี้เสียลดลงอย่างมากแต่การเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งหนุนหุ้นรายตัวปรับตัวขึ้น โดยหุ้นธนาคารบาร์เคลย์ส พุ่งขึ้น 3.1% หลังรายงานผลกำไรทั้งปีเพิ่มขึ้นเกือบ 3 เท่า เนื่องจากหนี้เสียลดลงอย่างมาก