Market Watch จับตาโลกวันนี้ : เมื่อวันอังคาร (13 ก.ย.) ตลาดหุ้นสหรัฐฯ และตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วง นำโดยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี เนื่องจากการประกาศตัวเลขเงินเฟ้อที่สูงเกินคาดของสหรัฐฯ ทำให้นักลงทุนกังวลว่า FED อาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยรุนแรงขึ้นมากกว่าเดิม
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดร่วงลงอย่างหนักในวันอังคาร (13 ก.ย.) จากการที่นักลงทุนเทขายหุ้นหลังจากสหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อที่สูงกว่าคาด ซึ่งผลักดันให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยนักลงทุนมีความกังวลว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยถึง 1.00% ในการประชุมเดือนนี้
Dow Jones -3.94%
S&P500 -4.32%
Nasdaq -5.16%
ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค พุ่งขึ้น 8.3% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบรายปี สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 8.1% ส่วนดัชนี CPI พื้นฐานที่ไม่นับรวมราคาในหมวดอาหารและพลังงาน เพิ่มขึ้น 6.3% ในเดือน ส.ค. เมื่อเทียบรายปี สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 6.1%
FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 32% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 1.00% สู่ระดับ 3.25-3.50% ในการประชุมเดือนนี้ และให้น้ำหนัก 82% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% อีกทั้ง ทางด้านนักวิเคราะห์ของบริษัทโนมูระคาดการณ์เช่นเดียวกัน
ราคาหุ้นร่วงลงทุกกลุ่ม นำโดยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี โดยหุ้นแอปเปิล ร่วงลง 5.87%, หุ้นเมตา แพลทฟอร์มส์ ดิ่งลง 9.37%, หุ้นแอมะซอน ร่วงลง 7.067%, หุ้นไมโครซอฟท์ ร่วงลง 5.5% และหุ้นอัลฟาเฟท ดิ่งลง 5.9%
หุ้นกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยปรับตัวลงเช่นกัน โดยหุ้นคาปรี โฮลดิ้งส์ ร่วงลง 5.55%, หุ้นราล์ฟ ลอเรน ร่วงลง 5.11% และหุ้นไนกี้ ดิ่งลง 5.93%
นักลงทุนรอดูข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่น ๆ ของสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือน ส.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ยอดค้าปลีกเดือน ส.ค., ดัชนีภาคการผลิต (Empire State Manufacturing Index) เดือน ก.ย.จากเฟดนิวยอร์ก, ราคานำเข้าและราคาส่งออกเดือน ส.ค., การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือน ส.ค., สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือน ก.ค. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นเดือน ก.ย. จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน
ตลาดหุ้นยุโรป ปิดปรับตัวลงในวันอังคาร (13 ก.ย.) เป็นผลมาจากตัวเลขเงินเฟ้อที่สูงเกินคาดของสหรัฐฯ ตอกย้ำการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแรงขึ้น
CAC-40 -1.55%
Stoxx Europe 600 -1.39%
DAX -1.59%
FTSE 100 -1.17%
นำโดยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่อ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ยร่วงลง 3.2% ซึ่งในปีนี้ร่วงลงเกือบ 30%
หุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ร่วงลง 3.9% และกลุ่มค้าปลีกร่วง 3.5% หลังบริษัทออคาโด รีเทล และมาร์ค แอนด์ สเปนเซอร์คาดว่า ยอดขายทั้งปี 2565 จะลดลง
แต่หุ้นยูบีเอส กรุ๊ป เอจี ปรับตัวขึ้น 0.7% สวนทางตลาด หลังจากเปิดเผยแผนการที่จะเพิ่มเงินปันผล 10% สู่ 0.55 ดอลลาร์ต่อหุ้น
ส่วนหุ้นเอวีวา กรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัทซอฟต์แวร์ของอังกฤษ พุ่งขึ้น 3.1% หลังมีรายงานว่าบริษัทชไนเดอร์ อิเล็กทริกของฝรั่งเศสใกล้บรรลุข้อตกลงที่จะซื้อหุ้นทั้งหมดของเอวีวามูลค่าราว 3.5 พันล้านปอนด์ (4.1 พันล้านดอลลาร์)