Market Watch จับตาโลกวันนี้ : เมื่อวันจันทร์ (8 ส.ค.) ตลาดหุ้นสหรัฐฯ และยุโรปปิดบวกเพียงเล็กน้อย เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่า ตัวเลขจ้างงานของสหรัฐฯ ที่พุ่งขึ้นมากกว่าการคาดการณ์ถึง 2 เท่า จะผลักดันให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดบวกเพียงเล็กน้อยในวันจันทร์ (8 ส.ค.) ขณะที่ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ต่างก็ปิดในแดนลบ เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่า ตัวเลขจ้างงานของสหรัฐฯ ที่พุ่งขึ้นมากกว่าการคาดการณ์ถึง 2 เท่า จะผลักดันให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
Dow Jones +0.09%
S&P500 -0.12%
Nasdaq -0.10%
หุ้น 7 ใน 11 กลุ่มที่คำนวณในดัชนี S&P500 ปิดในแดนบวก นำโดยหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และกลุ่มวัสดุ โดยหุ้นโจนส์ แลง ลาซาลล์ พุ่งขึ้น 1.46%, หุ้นอเมริกัน เรียลตี้ อินเวสเตอร์ส พุ่งขึ้น 3.72%, หุ้นฟรีพอร์ท-แมคมอแรน ดีดขึ้น 1.16% และหุ้นยูเอส สตีล คอร์ป ปรับตัวขึ้น 1.59%
หุ้นอินวิเดีย (Nvidia) ร่วงลง 6.3% หลังจากบริษัทคาดการณ์ว่า รายได้ในไตรมาส 2/2565 จะลดลง 19% สู่ระดับ 6.7 พันล้านดอลลาร์ เนื่องจากธุรกิจเกมชะลอตัวลง ซึ่งการร่วงลงของหุ้นอินวิเดียส่งผลให้ราคาหุ้นบริษัทอื่น ๆ ในกลุ่มเทคโนโลยีดิ่งลงด้วย โดยหุ้นไมโครซอฟท์ ลดลง 0.92%, หุ้นอัลฟาเบท ลดลง 0.14% และหุ้นไมครอน เทคโนโลยี ร่วงลง 1.62%
หุ้นบริษัทผลิตรถยนต์พุ่งขึ้น โดยหุ้นฟอร์ด มอเตอร์ ดีดขึ้น 3.2%, หุ้นเจเนอรัล มอเตอร์ ทะยานขึ้น 6.16%, หลังจากวุฒิสภาสหรัฐผ่านร่างกฎหมายต่อสู้ภาวะโลกร้อนในวงเงิน 4.30 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งครอบคลุมถึงการลดหย่อนภาษีมูลค่า 4,000 ดอลลาร์ ให้กับผู้ซื้อรถยนต์ไฟฟ้ามือสอง และจัดหาเงินอีกหลายพันล้านดอลลาร์ เพื่อสนับสนุนการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าภายในประเทศ
นักลงทุนจับตากระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ประจำเดือนก.ค.ในวันพุธนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ดัชนี CPI ทั่วไป ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน จะปรับตัวขึ้น 8.7% ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบรายปี โดยชะลอตัวจากที่พุ่งขึ้น 9.1% ในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 40 ปี
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์คาดว่า ดัชนี CPI พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน จะพุ่งขึ้น 6.1% ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบรายปี โดยดีดตัวขึ้นจากระดับ 5.9% ในเดือนมิ.ย.
ตลาดหุ้นยุโรป ปิดบวกในวันจันทร์ (8 ส.ค.) โดยดีดตัวขึ้นมากที่สุดในรอบเกือบ 2 สัปดาห์ หลังร่วงลงในสัปดาห์ที่ผ่านมาจากความวิตกว่า ข้อมูลการจ้างงานที่แข็งแกร่งของสหรัฐฯ จะกระตุ้นให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างรุนแรงอีก
Stoxx Europe 600 +0.74%
CAC-40 +0.80%
DAX +0.84%
FTSE 100 +0.57%
หุ้นเกือบทุกกลุ่มปรับตัวขึ้น โดยกลุ่มที่อ่อนไหวต่อภาวะเศรษฐกิจ เช่น กลุ่มบริการการเงิน และกลุ่มรถยนต์นำตลาดปรับตัวขึ้น แต่หุ้นกลุ่มน้ำมันปรับตัวขึ้นเพียง 0.6% เนื่องจากราคาน้ำมันดิบปรับตัวอยู่ใกล้ระดับต่ำสุดในรอบหลายเดือนท่ามกลางความวิตกด้านอุปสงค์
ส่วนหุ้นกลุ่มเฮลท์แคร์ทรงตัว โดยถูกกดดันหลังจากวุฒิสมาชิกสหรัฐอนุมัติร่างกฎหมายเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาที่จะทำให้ราคายาลดลง
การเปิดเผยแนวโน้มผลประกอบการที่สดใสช่วยหนุนหุ้นรายตัว เช่น หุ้นคาร์ลสเบิร์ก บริษัทเบียร์ของเดนมาร์ก ปรับตัวขึ้น 1.5% หลังปรับเพิ่มแนวโน้มการขยายตัวของผลกำไรในปี 2565 โดยระบุว่า บริษัทสามารถเริ่มการดำเนินธุรกิจในยูเครน และมีผลประกอบการที่แข็งแกร่งในยุโรปและเอเชีย
บรรดานักลงทุนจะมุ่งความสนใจในสัปดาห์นี้ไปที่การเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐฯ หลังจากตลาดหุ้นทั่วโลกได้รับผลกระทบจากข้อมูลเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว บ่งชี้ว่า การจ้างงานเพิ่มขึ้นอย่างมากในสหรัฐฯ และเพิ่มความวิตกเกี่ยวกับการที่เฟดจะเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ