เจาะลึก! หุ้น Reckitt Benckiser เจ้าของถุงยาง “DUREX”

โลกในปัจจุบันค่อนข้างเปิดกว้างมากขึ้น และการพูดคุยเกี่ยวกับ “ถุงยาง” ไม่ใช่เรื่องน่าอายอีกต่อไป รวมถึงประโยชน์จากการใช้งานมีมากมายเกินกว่าที่คุณจะมองข้าม!😄

“เมื่อยุคสมัยมีการเปลี่ยนผ่าน…วัฒนธรรมและการดำเนินชีวิตของเราก็เปลี่ยนแปลงตามไปด้วย” ประโยคนี้สะท้อนถึงสัจธรรมของชีวิต และสามารถใช้ได้ในโลกการลงทุนได้ด้วยเช่นกัน โดยคุณจะเห็นว่า ปัจจุบันเราสามารถเข้าถึงการลงทุนได้ง่ายกว่าในอดีตที่ผ่านมา อีกทั้งยังมีการลงทุนหลากหลายประเภทให้เลือกตามความสนใจ และเงื่อนไขการลงทุนของแต่ละบุคคล แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่า “หุ้น” ยังคงเป็นสินทรัพย์ที่ได้รับความนิยมมาตลอดกาล ยิ่งไปกว่านั้นผลิตภัณฑ์ของบริษัทบางตัว อาจปรากฏอยู่ในชีวิตประจำวันของคุณ หรือคุณอาจพบเห็นมันทุกครั้งที่แคชเชียร์จ่ายเงินอย่าง “DUREX” ที่เรากำลังจะกล่าวถึงต่อไปนี้

. . . . . . . . . . . . . .

รู้หรือไม่? มูลค่าบริษัท Reckitt Benckiser เจ้าของถุงยาง DUREX ที่หลายคนอาจเคยเห็นผ่านตา “สูงกว่าทุกบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ไทย” ซึ่งคุณก็สามารถเป็นเจ้าของ DUREX ได้ง่าย ๆ ผ่าน “หุ้น Reckitt“🔥

. . . . . . . . . . . . . .

ประเด็นสำคัญเกี่ยวกับการลงทุนในบริษัท Reckitt Benckiser เจ้าของถุงยาง DUREX

*หมายเหตุ: การลงทุนทุกประเภทมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาให้ดีก่อนตัดสินใจลงทุนทุกครั้ง

. . . . . . . . . . . . . .

ไทยส่งออกถุงยาง DUREX ไม่แพ้ชาติใดในโลก

หลายคนอาจจะยังไม่ทราบว่า ประเทศไทยเราเป็นฐานการผลิตถุงยางให้กับแบรนด์ชั้นนำหลายบริษัท เช่น Okamoto, ONETOUCH รวมถึง DUREX โดยไทยได้ขึ้นชื่อว่า เป็นประเทศที่ส่งออกถุงยางอนามัยอันดับ 1 ของโลก ด้วยทรัพยากรหลักของประเทศ นั่นคือ “ยางพารา” ซึ่งเป็นส่วนวัตถุดิบสำคัญในการผลิต “ถุงยาง” และแน่นอนว่า แบรนด์ถุงยางที่สร้างรายได้สูงที่สุด คือ DUREX 🐶

เปิดประวัติ Reckitt Benckiser เจ้าของถุงยาง DUREX แบรนด์ระดับโลก

ในหัวข้อนี้ เราขอแยกเล่าประวัติ DUREX และ Reckitt Benckiser ออกจากกัน เนื่องจากทั้งสองไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกันตั้งแต่แรกเริ่ม แต่ถูกควบรวมกิจการมาจนถึงปัจจุบัน โดยมีรายละเอียดดังนี้

จุดเริ่มต้นของถุงยาง DUREX

DUREX ย่อมาจากคำว่า ทนทาน น่าเชื่อถือ คุณภาพสูง

ในอดีต DUREX ไม่ได้ถูกครอบครองโดยบริษัท Reckitt แต่เริ่มต้นมาจากบริษัท London Rubber ประเทศอังกฤษ ซึ่งก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1915 โดยมีธุรกิจหลักเกี่ยวกับการนำเข้าถุงยางอามัยและอุปกรณ์ทำผม หลักจากนั้นไม่นาน บริษัทได้ทำการเปลี่ยนชื่อมาเป็น London International Group (LIG) รวมถึงผลันตัวจากผู้นำเข้าสู่ผู้ผลิตเมื่อปี 1929

เข้าสู่เว็บไซต์ DUREX

โดยสินค้าที่ทางบริษัทเลือกผลิตเป็นสินค้าที่บริษัทมีความคุ้นชิน และคลุกคลีกันมามากกว่าทศวรรษ นั่นคือ ถุงยางอนามัย ในชื่อแบรนด์ “DUREX” หรือ Durability Reliability Excellence แปลว่า “ทนทาน น่าเชื่อถือ คุณภาพสูง” อีกทั้งทางแบรนด์ยังให้ความสำคัญกับการออกแบบตามสรีระส่วนใหญ่ของผู้ชาย โดยทำการเก็บข้อมูลจากกลุ่มคนที่มี Sex ทั่วโลก

จุดเริ่มต้นของบริษัท Reckitt Benckiser เจ้าของ DUREX

Reckitt Benckiser คือบริษัทอะไร?

Reckitt Benckiser คือ บริษัทสินค้าอุปโภคบริโภคสัญชาติอังกฤษที่ใหญ่เป็นอันดับ 6 ของโลก โดยเรารู้จักกันในนาม “เจ้าของ DUREX”

เข้าสู่เว็บไซต์ Reckitt

Reckitt Benckiser เป็นบริษัทที่ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 1823 ถือว่าเป็นหนึ่งในบริษัทที่เก่าแก่ของโลกเลยทีเดียว โดย Reckitt Benckiser ผ่านการควบรวมกิจการมาหลายครั้งกว่าจะกลายเป็นเจ้าของ DUREX อย่างในปัจจุบัน ในปี 2010 ทาง Reckitt ได้ทำการเข้าซื้อกิจการของบริษัท SSL Internationa ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตถุงยาง DUREX เจ้าเก่า แต่หลังการควบรวมกิจการยอดขาย DUREX กลับเริ่มลดลง เนื่องจากพฤติกรรมของคนส่วนใหญ่เปลี่ยนไปจากภาวะอัตราการเกิดน้อยลง

ด้วยสาเหตุนี้ จึงทำให้ทางการของประเทศต่าง ๆ สนับสนุนให้ประชาชนมีบุตรเพิ่มมากขึ้นด้วยนโยบายสนับสนุนหลายทาง และแน่นอนว่า การมีบุตรต้องตามมาด้วยการดูแลเด็กที่มากขึ้น ดังนั้น Reckitt Benckiser จึงได้เล็งเห็นโอกาสในการเติบโตเกี่ยวกับธุรกิจดูแลเด็กเล็ก จึงตัดสินใจควบรวมกิจการบริษัท Mead Johnson Nutrition ซึ่งประกอบธุรกิจเกี่ยวกับการผลิตนมผงและอาหารเสริมเด็กในปี 2017 ด้วยมูลค่ากว่า 16,600 ล้านดอลลาร์ เพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมายผู้ดูแลเด็กเล็ก โดยเฉพาะในประเทศจีน

สืบเนื่องมาจาก ณ เวลานั้น จีนมีอัตราการเกิดสูงอย่างเห็นได้ชัด ส่งผลให้การปรับกลยุทธ์ครั้งใหญ่นี้ ช่วยเพิ่มอัตราการเติบโตและผลกำไรของบริษัทให้สูงขึ้นอย่างรวดเร็ว จากนั้นในปีต่อมากระแสการมีบุตรเริ่มลดลง ทำให้ถุงยาง DUREX กลับมาเป็นที่นิยมอีกครั้ง และครองตำแหน่งถุงยางอันดับ 1 ของโลก

Reckitt Benckiser (Thailand) ltd ทำอะไร?

📌Tip! บริษัท Reckitt Benckiser ได้เข้ามาจดทะเบียนทำธุรกิจในประเทศไทย โดยใช้ชื่อว่า Reckitt Benckiser (Thailand) ltd. ในปี 1983 ซึ่งเป็นเหมือนบริษัทลูกในการผลิตสินค้าอุปโภคบริโภค และสินค้าเกี่ยวกับสุขภาพทางเพศ โดยในปี 2019 ได้สร้างรายได้ไปกว่า 4,875 ล้านบาท แต่คิดเป็นเพียง 1% ของบริษัทแม่เท่านั้น ซึ่ง 60% ของรายได้ทั้งหมดมาจากธุรกิจกลุ่มสุขภาพ (รวมถุงยาง DUREX) และอีก 38% มาจากธุรกิจสุขอนามัยที่บ้าน

. . . . . . . . . . . . . .

Reckitt Benckiser ทำอะไรบ้างนอกจาก DUREX

หากพูดชื่อบริษัท Reckitt Benckiser อาจไม่เป็นที่รู้จักกันมากนัก แต่ถ้าพูดถึงผลิตภัณฑ์ของบริษัท ต้องเป็นสิ่งที่คุณซื้อเข้าบ้านเป็นประจำอย่างแน่นอน อย่างที่กล่าวไปข้างต้น บริษัท Reckitt Benckiser เป็นบริษัทผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคระดับโลก ซึ่งมีหลายผลิตภัณฑ์ยอดนิยมที่อยู่ในซูเปอร์มาร์เก็ตแถวบ้านคุณ

ตัวอย่างสินค้า Reckitt Benckiser นอกเหนือจาก DUREX

. . . . . . . . . . . . . .

หุ้น Reckitt Benckiser ผู้ผลิตถุงยาง DUREX น่าสนใจยังไง?

จะดีกว่าไหม? หากคุณสามารถผันตัวมาเป็น “เจ้าของ” สินค้าที่คุณใช้งานอยู่ทุกวันได้ ผ่านการถือหุ้นของบริษัท แต่แน่นอนว่า ก่อนที่คุณจะตัดสินใจลงทุนในหุ้นตัวใด ต้องผ่านการไตร่ตรองอย่างละเอียดและรอบคอบ รวมถึงประเมินความสามารถในการสร้างผลตอบแทนอย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการ “ติดดอย” นั่นเอง

ในหัวข้อนี้ เราจะบอกถึงความน่าสนใจของหุ้น Reckitt Benckiser หรือที่หลายคนอาจรู้จักกันในนาม “หุ้น DUREX”

จุดแข็ง Reckitt Benckiser ที่เทคโนโลยีก็มาแทนที่ไม่ได้

ประเด็นแรก ถึงแม้ในยุคปัจจุบันเทคโนโลยีจะเข้ามามีส่วนร่วมในชีวิตประจำวันของเรามากขึ้น แต่เทคโนโลยียังไม่มีความสามารถมากพอที่เข้าจะมาแทนที่สินค้าอุปโภคบริโภค ซึ่งเป็นธุรกิจหลักของ Reckitt Benckiser โดยในทางเศรษฐกิจและตลาดเงิน สินค้าประเภทนี้จะถูกจัดอยู่ในกลุ่มสินค้า Consumer Staples ที่เปรียบเสมือนปัจจัย 4 ของมนุษย์

ทำให้ผลประกอบการของหุ้นมีความผันผวนต่อตลาดค่อนข้างน้อย หรือพูดกันง่าย ๆ คือ อย่างไรคนก็ต้องใช้สินค้าจำพวกนี้ โดยเฉพาะแบรนด์ระดับโลกอย่าง Reckitt เนื่องจากผู้บริโภคค่อนข้างคุ้นชิน และมีความเชื่อถือต่อแบรนด์สูง นอกจากนี้ หุ้นของธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภคยังถูกจัดเป็นหุ้นมูลค่าหรือ VI ซึ่งคุณสามารถลงทุนได้ในระยะยาว อีกทั้งยังถือเป็นอีกแหล่งพักเงินของนักลงทุนรายใหญ่

ชาติกำเนิดมันแข่งกันไม่ได้ “หุ้นเกาหลี” ยักษ์ใหญ่แห่งแดนโสมขาว

ประเด็นต่อมา Reckitt Benckiser หรือที่หลายคนอาจรู้จักกันในนามของ “เจ้าของ DUREX” เป็นบริษัทสัญชาติอังกฤษ ซึ่งประเทศอังกฤษเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจแข็งแกร่งเป็นอันดับ 2 ในยุโรป โดยมีมูลค่า GDP กว่า 2.7 ล้านล้านดอลลาร์ นอกจากนี้ ลอนดอนซึ่งเป็นเมืองหลวงของประเทศอังกฤษ ยังถูกยกย่องให้เป็นศูนย์กลางทางการเงินที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลกอีกด้วย

ทำให้ในแง่มุมของนักลงทุน “หุ้นอังกฤษ” ถือเป็นอันดับต้น ๆ ของหุ้นที่น่าลงทุน นอกจากนี้ Reckitt Benckiser ยังมีสาขากระจายไปทั่วโลกมากกว่า 60 ประเทศ ซึ่งวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ใน 180 ประเทศ ทำให้มูลค่าตลาดของบริษัทสูงกว่า 54.14 พันล้านดอลลาร์

📌Tip! Reckitt Benckiser จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ลอนดอน (London Stock Exchange: LSE) ภายใต้สัญลักษณ์หุ้น RKT โดยถูกจัดอยู่ในดัชนี FTSE 100

ถึงแม้จะเกิดวิกฤตแต่ Reckitt Benckiser และ DUREX ก็ฆ่าไม่ตาย

ประเด็นที่ขาดไม่ได้ ในช่วงที่เกิดการแพร่ระบาดโควิด-19 ที่ผ่านมา บริษัทใหญ่หลายแห่งต้องปิดตัวลง เนื่องจากเศรษฐกิจทั่วโลกเกิดการหยุดชะงัก แต่สำหรับ Reckitt Benckiser ถึงแม้ยอดขายจากผลิตภัณฑ์ DUREX จะลดลงในบางประเทศ เช่น อิตาลีและอังกฤษ แต่บริษัทยังสามารถทำกำไรได้จากสินค้าตัวอื่น ๆ ในเครือ โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์จำพวกฆ่าเชื้อแบคทีเรียและทำความสะอาด รวมถึงยาอมแก้เจ็บคอ ทำให้บริษัทยังสามารถดำเนินธุรกิจ และจ่ายเงินปันผลได้อย่างต่อเนื่อง

📌Tip! ในปี 2020 เดทตอล (Detto) เป็นผลิตภัณฑ์กลุ่มสุขภาพที่ทำยอดขายสูงสุดในช่วงโควิด-19 โดยสเปรย์ผ้าเช็ดทำความสะอาด และของเหลวตราเดทตอลสร้างผลตอบแทนที่สูงขึ้นกว่า 50% สะท้อนให้เห็นถึง Pace of Innovation ของบริษัท >> อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Pace of Innovation

ผลประกอบที่ไม่หวือหวาแต่มั่นคงและยาวนาน

ประเด็นสำคัญ ในปี 2020 ดูเร็กซ์ (DUREX) ประสบปัญหายอดขายตกในช่วงไตรมาส 2 แต่ในไตรมาส 3 สามารถพลิกกลับมาเติบโตได้อย่างเห็นได้ชัด รวมถึงยังได้ส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นในประเทศจีนและอินเดีย ซึ่งจัดว่าเป็นตลาดเกิดใหม่ (Key Emerging Markets) ที่สำคัญอีกด้วย

จากข้อมูลของ Nielsen ระบุว่า ในปี 2020 หลังผู้คนส่วนใหญ่เริ่มปรับวิถีชีวิตให้คุ้นชินกับไวรัสโควิด-19 ยอดขายถุงยางอนามัยในไทยเพิ่มขึ้นราว 59 ล้านชิ้น คิดเป็นมูลค่ากว่า 1,188.1 ล้านบาท ซึ่งแบรนด์ถุงยางที่ครองส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับ 1 ได้แก่ DUREX โดย Reckitt Benckiser (Thailand) ltd มีรายได้เฉลี่ยดังนี้

• ปี 2018 รายได้ 1,677,915,562 บาท กำไร 10,786,709 บาท
• ปี 2019 รายได้ 1,895,495,417 บาท กำไร 37,936,000 บาท
• ปี 2020 รายได้ 2,326,584,960 บาท กำไร 76,163,986 บาท

ในด้านของบริษัทแม่ Reckitt Benckiser หลังยกเลิกการล็อกดาวน์ DUREX ทำรายได้สูงขึ้นกว่า 10% โดยมีรายได้รวม 3,513 ล้านปอนด์ (140,000 ล้านบาท) คิดเป็น 13.3% เมื่อเทียบกับปีก่อน และมียอดขายของผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเพิ่มขึ้น (19.5%) และผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ (12.6%)

📌Tip! ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา กำไรต่อหุ้น (EPS) เพิ่มขึ้น 94% ต่อปี แต่ราคาหุ้น Reckitt Benckiser ลดลงเฉลี่ย 9% ต่อปี สะท้อนว่า การสร้างผลกำไรของบริษัทค่อนข้างล่าช้าแต่มั่นคง >> อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ EPS

บริษัท Reckitt Benckiser มีความสามารถในการใช้หนี้สูง

ประเด็นสุดท้าย Howard Marks ผู้จัดการกองทุนระดับโลกเคยกล่าวไว้ว่า “ความน่ากลัวที่สุดในตลาดหุ้นไม่ใช่ความผันผวน แต่เป็นการขาดทุนอย่างถาวร” ดังนั้น ความสามารถในการบริหารจัดการหนี้ ซึ่งเป็นต้นทุนสำคัญทางการเงินของบริษัท จึงสามารถสะท้อนความมั่นคงของธุรกิจได้ค่อนข้างดี และ Reckitt Benckiser เคยถูกมองว่า “มีหนี้สินในงบดุลสูง” รวมถึงมีแนวโน้มที่จะระดมเงินสดเพื่อปรับปรุงงบดุล

แต่จากรูปข้างต้นแสดงให้เห็นว่า Reckitt Benckiser มีหนี้ในสหราชอาณาจักร 8.30 พันล้านปอนด์ ในเดือนมิถุนายน ปี 2023 ลดลงจาก 9.58 พันล้านปอนด์ เมื่อเทียบกับปีก่อน อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่า Reckitt Benckiser เป็นบริษัทระดับโลก จึงอาจมีการระดมทุนเพิ่มเพื่อปรับปรุงงบดุลด้วยการเพิ่มขนาดหนี้ของบริษัทให้สัมพันธ์กับรายได้ ซึ่งเราสามารถวิเคราะห์ความคุ้มค่าได้ดังนี้

หนี้สินสุทธิ / กำไรก่อนดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA)

กำไรก่อนดอกเบี้ยและภาษี (EBIT) / ดอกเบี้ยจ่าย

การวิเคราะห์หนี้ของบริษัทเช่นนี้ จะสะท้อนถึงปริมาณหนี้สัมบูรณ์ (มีหนี้สินสุทธิต่อ EBITDA เท่าไร) และค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยที่แท้จริงต่อหนี้นั้น ๆ (พร้อมอัตราส่วนความสามารถในการชำระดอกเบี้ย) >> อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ EBITDA และ EBIT

จากการคำนวณข้างต้นสามารถสรุปได้ว่า อัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อ EBITDA อยู่ในระดับปานกลาง บ่งบอกถึง ความรอบคอบในการจัดการเกี่ยวกับภาระหนี้สินที่เป็นต้นทุนทางการเงินของบริษัท รวมถึง EBIT ที่มีปริมาณสูงกว่าดอกเบี้ยจ่าย 15.7 เท่า หมายความว่า ภาระหนี้ของบริษัทนั้นไม่ได้มีผลต่อการดำเนินการ ซึ่งถือเป็นจุดแข็งอย่างหนึ่งของ Reckitt Benckiser

อย่างไรก็ตาม การคำนวณข้างต้นยังไม่ใช่กำไรสุทธิ แต่เป็นเพียงการแสดงรายได้ในแง่ของเงินสดเท่านั้น โดยในช่วง 3 ที่ผ่านมา Reckitt Benckiser มีกระแสเงินสดที่ค่อนข้างแข็งแกร่งกว่า 74% ของ EBIT

. . . . . . . . . . . . . .

ผลประกอบการ Reckitt Benckiser ครึ่งปีแรก 2023

📌Tip! นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า รายได้จะเติบโตในช่วง 3 ปีข้างหน้า เฉลี่ย 3.8% ต่อปี และมีกำไรสูงขึ้น 5.9% ต่อปี เทียบกับการคาดการณ์การเติบโต 2.6% ของอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ในครัวเรือนของยุโรป

. . . . . . . . . . . . . .

หุ้น Reckitt Benckiser ซื้อได้ที่ไหน ? (DUREX)

หากอ่านมาจนถึงหัวข้อนี้ คุณคงสนใจบริษัท Reckitt Benckiser อยู่ไม่น้อย ด้วยจุดแข็งต่าง ๆ รวมถึงผลิตภัณฑ์ที่จำเป็นต่อชีวิตประจำวันของคนส่วนใหญ่ โดยคุณสามารถลงทุนในหุ้น Reckitt Benckiser ได้ 2 วิธีหลัก ๆ ดังรายละเอียดต่อไปนี้

• ลงทุนผ่านกองทุนรวม
• ลงทุนผ่านแพลตฟอร์ม CFD

ลงทุนหุ้น Reckitt Benckiser ผ่านกองทุนรวม

ปัจจุบันกองทุนรวมในประเทศไทยยังไม่มีกองทุนที่ลงทุนในหุ้นอังกฤษโดยตรง แต่มีกองทุนที่มีนโยบายหลักในการลงทุนหุ้นยุโรป โดยให้น้ำหนักไปที่หุ้นอังกฤษกว่า 20% เช่น TMBEG, SCBUSM และ ONE-EUROEQ ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขและการปรับเปลี่ยนสัดส่วนของแต่ละกองทุน

นอกจากนี้ยังมีกองทุน RMF หรือกองทุนเพื่อการเลี้ยงชีพที่มีสัดส่วนลงทุนไปที่บริษัทแบรนด์ยักษ์ใหญ่ของโลก ซึ่งให้ผลตอบแทนที่ไม่หวือหวาแต่มั่นคงในระยะยาว เหมาะกับผู้ที่ต้องการออมเงินเพื่อใช้จ่ายในยามเกษียณ แต่ให้ผลตอบแทนที่มากกว่าการฝากเงินในธนาคารทั่วไป อย่างกองทุนเปิดกรุงศรีโกลบอลแบรนด์อิควิตี้เพื่อการเลี้ยงชีพ (KFGBRANRMF) ของบลจ. กรุงศรี >> อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับกองทุน RMF

ลงทุนหุ้นต่างประเทศผ่านแพลตฟอร์ม CFD

สืบเนื่องมาจากหากคุณไม่ได้มีสัญชาติเดียวกับหุ้นนั้น ๆ หุ้นจะไม่สามารถซื้อหุ้นต่างประเทศรายตัวได้ ดังนั้น จึงต้องทำซื้อขายผ่านโบรกเกอร์ CFD ที่ให้บริการสินทรัพย์หุ้นต่างประเทศ โดย CFD คือ ตราสารอนุพันธ์หรือสัญญาซื้อขายส่วนต่าง ที่ทำกำไรจากการเคลื่อนไหวของราคาของสินทรัพย์ทางการเงิน เช่น หุ้น ดัชนี และสินค้าโภคภัณฑ์

โดยคุณจะไม่ได้อยู่ในสถานะเจ้าของหุ้น แต่เป็นเพียงการทำสัญญาซื้อขายกับโบรกเกอร์ CFD เพื่อเก็งกำไรเท่านั้น และแน่นอนว่า โบรกเกอร์ก็คือธุรกิจอย่างหนึ่ง จึงต้องมีการคิดค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ในการซื้อขาย ดังนั้น การเลือกโบรกเกอร์จึงส่งผลต่อต้นทุนการเทรดหุ้นของคุณโดยตรง

อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันมีโบรกเกอร์ CFD จำนวนมากที่ให้บริการซื้อขายหุ้นต่างประเทศ เช่น WOXA.com แพลตฟอร์ม CFD ที่มาแรงที่สุดในปี 2023 โดยรองรับสินทรัพย์หลากหลายไม่ว่าจะเป็นคริปโต, สกุลเงิน, ดัชนี, สินค้าโภคภัณฑ์ รวมไปถึงหุ้นต่างประเทศ >> อ่านรีวิว WOXA.com เพิ่มเติม

*หมายเหตุ: การลงทุนทุกประเภทมีความเสี่ยง และการเลือกโบรกเกอร์มีหลายปัจจัยที่คุณต้องพิจารณา ดังนั้น ควรศึกษาให้ดีก่อนตัดสินใจลงทุนทุกครั้ง

. . . . . . . . . . . . . .

สรุป บริษัท Reckitt Benckiser เจ้าของ “DUREX” น่าสนใจอย่างไร

บริษัท Reckitt Benckiser เป็นบริษัทเก่าแก่ของโลก และดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับสินค้าอุปโภคบริโภค โดยได้เข้าควบรวมบริษัทเก่าที่เป็นผู้คิดค้น DUREX ในปี 2010 จากนั้น กลับต้องเผชิญวิกฤตต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ยอดขายลดลงอย่างเห็นได้ชัดโดยเฉพาะในช่วงที่เกิดการแพร่ระบาดโควิด-19 แต่อย่างที่กล่าวไปข้างต้น Reckitt ไม่ได้มี DUREX เป็นสินค้าในเครือตัวเดียว แต่มีสินค้าอีกจำนวนมาก ซึ่งแต่ละอย่างอาจเป็นสิ่งที่ใช้ในชีวิตประจำวันของใครหลาย ๆ คน แบบไม่รู้ตัว ตัวอย่างเช่น

• K-Y เจลหล่อลื่น
• Enfamil นมผงสำหรับทารก
• Scholl รองเท้าเพื่อสุขภาพ
• Gaviscon  ยาลดกรดไหลย้อน
• Mortein ยาฆ่าแมลง
• Veet ยากำจัดขน

ทำให้บริษัทสามารถดำเนินกิจการได้ตามปกติ อีกทั้งยังได้รับอานิสงค์จากสินค้ากลุ่มทำความสะอาด และฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่มียอดขายสูงขึ้นในช่วงโควิด-19 อีกด้วย ซึ่งหลังที่ผู้คนส่วนใหญ่เริ่มปรับวิถีชีวิตกับการแพร่ระบาดได้ก็ทำให้ DUREX กลับมาทำรายได้สูงอีกครั้ง นอกจากนี้ ความน่าสนใจของหุ้น Reckitt Benckiser สามารถแบ่งออกได้เป็น 5 ด้านด้วยกัน ดังนี้

• จุดแข็ง Reckitt Benckiser ที่เทคโนโลยีก็มาแทนไม่ได้
• ชาติกำเนิดมันแข่งกันไม่ได้ “หุ้นเกาหลี” ยักษ์ใหญ่แห่งแดนโสมขาว
• ถึงแม้เกิดวิกฤตแต่ Reckitt Benckiser และ DUREX ก็ฆ่าไม่ตาย
• ผลประกอบที่ไม่หวือหวาแต่มั่นคงของ Reckitt Benckiser และ DUREX
• บริษัท Reckitt Benckiser มีความสามารถในการใช้หนี้สูง

อย่างไรก็ตาม DUREX ถือเป็นแบรนด์ถุงยางอนามัยชั้นนำของโลก และสำหรับในประเทศไทย DUREX สามารถครองตำแหน่งอันดับ 1 อย่างกินขาดจากแบรนด์ถุงยางอื่น ๆ ด้วยความน่าเชื่อถือ และความใส่ใจในการออกแบบ เพื่อให้มีการตอบโจทย์กับสรีระของเพศชายมากที่สุด รวมทั้งคำนึงถึงความต้องการส่าวนใหญ่ของผู้ใช้ แต่การเลือกลงทุนในหุ้นต่าง ๆ จำเป็นต้องคำนึงถึงปัจจัยในด้านอื่น ๆ ด้วย เนื่องจากการลงทุนทุกประเภทล้วนมีความเสี่ยง ดังนั้น ผู้ลงทุนต้องพิจารณาและศึกษาให้ดีก่อนตัดสินใจลงทุนทุกครั้ง

. . . . . . . . . . . . . .

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับบริษัท Reckitt Benckiser เจ้าของถุงยาง “DUREX”

อ่านบทความเพิ่มเติม: สาระน่ารู้

วิเคราะห์ราคาทองคำรายวัน: วิเคราะห์ราคาทองคำ และ Facebook Page