3 ปัจจัยหลักที่มีผลต่อ ราคาหุ้น ที่นักลงทุนควรรู้

Table of Contents
ราคาหุ้น

ตลาดหุ้นเป็นตลาดเงินขนาดใหญ่ ที่นักลงทุนให้ความสนใจเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังมีนักลงทุนระดับโลกหลายคนให้คำแนะนำเกี่ยวกับตลาดนี้ แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่า ลงทุนหุ้น ยังเป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยง และมีปัจจัยมากมายเข้ามากระทบต่อราคา ซึ่งปัจจัยต่าง ๆ นี้ อาจทำให้ชีวิตของนักลงทุนพลิกผันได้เลยทีเดียว ซึ่งบทความนี้จะรวบรวมปัจจัยที่ส่งผลต่อ ราคาหุ้น เพื่อเป็นประโยชน์ในการวิเคราะห์แนวโน้ม และสามารถปรับพอร์ตการลงทุนได้อย่างทันท่วงที

ต้องขอบอกก่อนว่า ปัจจัยเหล่านี้เป็นตัวกําหนดเงินปันผล ราคาหุ้น และความเสี่ยงจากการลงทุน ซึ่งจะบ่งชี้ถึงแนวโน้มผลกําไรในอนาคตของบริษัท โดยส่วนใหญ่จะเกิดจากผลการดําเนินงานของบริษัท, รูปแบบธุรกิจของบริษัท, การก่อหนี้ของบริษัท รวมทั้งแนวโน้มภาวะอุตสาหกรรม และภาวะเศรษฐกิจ ดังนั้น หากนักลงทุนต้องการวิเคราะห์ ราคาหุ้น ให้มีประสิทธิภาพ ต้องอาศัยการศึกษาข้อมูลจากปัจจัยเหล่านี้ หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน (Fundamental Analysis) ซึ่งเราสามารถนํามาจัดกลุ่มเป็น 3 ปัจจัยหลัก ได้แก่ ภาวะเศรษฐกิจ ภาวะอุตสาหกรรม และผลการดําเนินงานของบริษัท

3 ปัจจัยหลักที่มีผลต่อ “ราคาหุ้น

ภาวะเศรษฐกิจ

อย่างที่ทราบกันดีว่า ถ้าเศรษฐกิจดีจะส่งผลให้ราคาหุ้นสูงขึ้น เนื่องจากนักลงทุนมองว่า โอกาสที่บริษัทจะขาดทุนนั้นมีน้อย จึงกล้าที่จะ ลงทุนหุ้น กล่าวคือ ในช่วงที่เศรษฐกิจดีประชาชนจะใช้จ่ายเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ยอดขายและผลกําไรของบริษัทเพิ่มขึ้น และเมื่อบริษัทมีกําไรเพิ่มขึ้น บริษัทก็จะสามารถจ่ายผลตอบแทนให้แก่ผู้ลงทุนได้มากขึ้นตามไปด้วย

ในทางตรงกันข้าม ถ้าเศรษฐกิจแย่ราคาหุ้นก็จะลดลง เนื่องจากผู้ลงทุนมีความกังวลในผลประกอบการของบริษัท กล่าวคือ ช่วงที่เศรษฐกิจแย่ กําลังการใช้จ่ายของประชาชนลดลง ซึ่งส่งผลให้ยอดขายของบริษัทลดลงตามไปด้วย ทำให้กําไรของบริษัทต่ำลงหรืออาจขาดทุน ท้ายที่สุดนักลงทุนก็จะไม่ได้รับการจัดสรรกําไรจากบริษัท เหตุการณ์ดังกล่าวทําให้นักลงทุนรู้สึกถึงความเสี่ยงจากการลงทุน จึงมีการเทขายหุ้นออกมา เมื่อมีการขายหุ้นออกจํานวนมากก็จะทําให้ราคาหุ้นปรับตัวลดลงในที่สุด

ราคาหุ้น

ภาวะอุตสาหกรรม

ถ้าอุตสาหกรรมใดอยู่ในช่วงขาขึ้น ราคาหุ้นที่อยู่ในอุตสาหกรรมนั้น มักจะปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากผู้ลงทุนคาดการณ์ว่า ผลประกอบการของบริษัทในอุตสาหกรรมนั้นจะปรับเพิ่มขึ้นตามภาวะอุตสาหกรรม

ในทางตรงกันข้าม ถ้าอุตสาหกรรมใดอยู่ในช่วงขาลง ราคาหุ้นที่อยู่ในอุตสาหกรรมนั้นก็จะมีการปรับตัวลดลง เนื่องจากผู้ลงทุนกังวลถึงความเสี่ยงจึงขายหุ้นในอุตสาหกรรมดังกล่าวออกไป

ราคาหุ้น

ผลการดําเนินงานของบริษัท

สำหรับปัจจัยนี้จะมีตัวแปรสำคัญเพิ่มอีกหนึ่งตัวแปร คือ ความสามารถของผู้บริหาร เนื่องจากผลประกอบการที่ออกมาจะขึ้นอยู่กับประเภทของธุรกิจ กลยุทธ์ของบริษัท และความสามารถของผู้บริหาร กล่าวคือ ในช่วงที่สภาวะเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมไม่ดี หากผู้บริหารของบริษัทมีความสามารถสูง ก็อาจทําให้ผลประกอบการของบริษัทลดลงไม่มาก และราคาหุ้นก็จะปรับตัวลงไม่มาก หรืออาจแค่ปรับฐาน ซึ่งจะมีสัญญาณในการปรับตัวเป็นขาขึ้นอยู่ ทั้งนี้ ต้องขึ้นอยู่กับความเชื่อมั่นที่นักลงทุนมีต่อบริษัทนั้น ๆ ด้วย โดยต้องอาศัยผลลัพธ์และประวัติของบริษัทตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน

ราคาหุ้น

อย่างไรก็ตาม ปัจจัยที่ได้กล่าวมานั้น เป็นเพียงปัจจัยพื้นฐานที่ส่งผลต่อ ราคาหุ้น ดังนั้นหากคิดจะ ลงทุนหุ้น ต้องศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมให้มาก เนื่องจากในตลาดการเงินยังมีปัจจัยที่ไม่คาดคิดอีกมาก ที่อาจเข้ามากระทบกับตลาด และทำให้ราคาเกิดความผันผวนได้


อ่านบทความเพิ่มเติม: สาระน่ารู้

วิเคราะห์ราคาทองคำรายวัน: วิเคราะห์ราคาทองคำ และ Facebook Page

Social Share
Facebook
Twitter