ตะกร้าค่าเงิน Forex คือ การรวมสกุลเงินหลักต่าง ๆ ที่มีการถ่วงน้ำหนักต่างกัน เพื่อวัดความแข็งค่าหรืออ่อนค่าของสกุลเงินนั้น ๆ และใช้ดู Correlation ของสกุลเงิน 🤑
สืบเนื่องมาจากการเทรด Forex เป็นการทำกำไรจากความเคลื่อนไหวของราคาคู่เงิน ซึ่งในปัจจุบันมีเทคนิคการเทรดขั้นสูงถูกเผยแพร่ออกมาจำนวนมาก แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่า ความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับ “ตะกร้าค่าเงิน Forex” ยังคงเป็นสิ่งสำคัญ เพราะจะช่วยกระจายความเสี่ยง และเป็นเหมือนการปูทางว่า ช่วงเวลานี้ควรเล่นคู่เงินไหนดี?
🔻คุณสามารถเลือกคลิกไปยังหัวข้อที่คุณสนใจได้เลยครับ
*หมายเหตุ: การลงทุนทุกประเภทมีความเสี่ยง และตลาดฟอเร็กซ์มีความผันผวนสูงมาก ดังนั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาให้ดีก่อนตัดสินใจลงทุน
. . . . . . . . . . . . . . .
ตะกร้าค่าเงิน Forex คืออะไร?
ตะกร้าค่าเงิน Forex (Currency Basket) คือ การนำสกุลเงินหลักหลาย ๆ สกุลมารวมกัน โดยจะมีการกำหนดน้ำหนักของสกุลเงินตามขนาดเศรษฐกิจของประเทศนั้น ๆ เพื่อวัดความแข็งค่าหรืออ่อนค่า
ตัวอย่างสกุลเงินที่มักถูกนำมารวมในตะกร้าค่าเงิน ได้แก่ ดอลลาร์สหรัฐ, ยูโร, เยน และปอนด์สเตอร์ลิง เป็นต้น
📢 เทรดเดอร์มักใช้ตะกร้าค่าเงิน Forex เพื่อดูความสัมพันธ์ของสกุลเงิน และตัดสินใจว่า ควรเทรดในคู่เงินใดจึงจะได้เปรียบ
ความสำคัญของตะกร้าค่าเงิน Forex
ปัจจุบันตะกร้าค่าเงินถูกใช้ทั้งในด้านการบริหารประเทศและการลงทุนทั่วไป จึงค่อนข้างมีความสำคัญอย่างมากในตลาด Forex โดยมีรายละเอียดดังนี้
1. ความสำคัญของตะกร้าค่าเงิน Forex สำหรับรัฐบาล
- ตะกร้าค่าเงินเป็นเครื่องมือในการตรึงมูลค่าสกุลเงินของประเทศ
- รัฐบาลต้องรักษาอัตราแลกเปลี่ยนของสกุลเงินให้คงที่เมื่อเทียบกับมูลค่าเฉลี่ยของสกุลเงินต่าง ๆ ในตะกร้า
- ช่วยให้สกุลเงินของประเทศนั้นมีเสถียรภาพและลดความผันผวนได้
- ตัวอย่างองค์กรระดับโลกที่ใช้หลักการตะกร้าค่าเงิน คือ IMF (International Monetary Fund)
🔻อ่านเพิ่มเติม: ย้อนรอย! วิกฤตหนี้ IMF เมื่อยุคสมัยพรากชีวิตของวัยรุ่น 90’s
2. ความสำคัญของตะกร้าค่าเงิน Forex สำหรับนักลงทุน
- ตะกร้าค่าเงินเป็นเครื่องมือจัดการความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน
- ใช้วิเคราะห์แนวโน้มของคู่เงินต่าง ๆ
- ใช้ประกอบการตัดสินใจในการเลือกคู่เงินเพื่อเทรด
📢 เทรดเดอร์จำเป็นต้องวิเคราะห์ตะกร้าค่าเงินร่วมกับปัจจัยพื้นฐานอื่น ๆ โดยเฉพาะข่าวสำคัญที่ส่งผลกระทบอย่างรุนแรง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความแม่นยำให้กับการเทรด ซึ่งเทรดเดอร์ส่วนใหญ่มักจะติดตามเว็บไซต์ Forex Factory
ข้อดี-ข้อเสีย ของการเทรดด้วยตะกร้าค่าเงิน
ข้อดี
- ช่วยกระจายความเสี่ยงได้ดี
- สะท้อนสภาวะเศรษฐกิจโดยรวม
- ใช้วิเคราะห์แนวโน้มของคู่เงินที่อาจได้เปรียบในช่วงเวลานั้น ๆ
- ช่วยให้เข้าใจความสัมพันธ์ในแต่ละคู่เงินมากขึ้น
- ใช้วิเคราะห์ความแข็งค่าหรืออ่อนค่าของสกุลเงิน
- เพิ่มโอกาสในการทำกำไร
ข้อเสีย
- ค่อนข้างมีความซับซ้อน และต้องอาศัยความเข้าใจอย่างถ่องแท้
- จำเป็นต้องศึกษาองค์ประกอบและน้ำหนักของสกุลเงินต่าง ๆ ในตะกร้าค่าเงิน
- การแสดงความอ่อนค่าและแข็งค่าของสกุลเงินเป็นเพียงภาพรวมในปัจจุบันเท่านั้น
การคำนวณของตะกร้าค่าเงิน Forex
📢 การนำค่าเงินแต่ละสกุลในตะกร้ามาถ่วงน้ำหนักตามสัดส่วนความสำคัญทางเศรษฐกิจของประเทศนั้น ๆ
ตัวอย่างการคำนวณตะกร้าค่าเงิน Forex
🔻ตะกร้าค่าเงินประกอบไปด้วยแต่ละสกุลเงินที่มีการถ่วงน้ำหนักตามความสำคัญทางเศรษฐกิจ ซึ่งแน่นอนว่า สกุลเงินที่มีบทบาทมากที่สุดในโลก คือ ดอลลาร์สหรัฐ (USD) ดังนั้น USD จะได้รับการถ่วงน้ำหนักมากกว่าสกุลเงินของประเทศอื่น ๆ
🔻ซึ่งระบบการถ่วงน้ำหนักนี้จะทำให้การเปลี่ยนแปลงของสกุลเงินสำคัญ ๆ อย่าง USD ส่งผลกระทบต่อมูลค่ารวมของตะกร้ามากกว่าสกุลเงินที่มีน้ำหนักน้อยกว่าครับ
ตัวอย่างตะกร้าค่าเงิน Forex ที่นิยมใช้
- ดัชนีดอลลาร์สหรัฐ (USD Index): ประกอบด้วย USD, EUR, GBP, JPY, CHF และ CAD
- ตะกร้าค่าเงินยุโรป (Euro Index): ประกอบด้วย EUR, GBP, CHF, SEK, DKK, และ NOK
- ตะกร้าค่าเงินเอเชีย (Asia Basket): ประกอบด้วย USD, JPY, CNY, HKD, SGD, และ AUD
วิธีดูตะกร้าค่าเงิน Forex
ปัจจุบันมีหลายเว็บไซต์ที่ให้บริการติดตามและซื้อขายตะกร้าค่าเงิน Forex ซึ่งนิยมอย่างมากในกลุ่มเทรดเดอร์สาย Fundamental โดยเฉพาะเว็บไซต์ Finviz ที่เปรียบเสมือน Forex Factory ในแง่ของความสัมพันธ์ระหว่างค่าเงิน โดยมีรายละเอียดดังนี้
📢 เว็บไซต์ Finviz เป็นหนึ่งในเครื่องมือที่ดีที่สุดของสาย Fundamental ซึ่งภายในเว็บไซต์มีทั้งข้อมูลการเปลี่ยนแปลงของราคาในแต่ละคู่เงิน, กราฟราคาคู่เงิน และที่สำคัญคุณสามารถดูตะกร้าค่าเงินฟอเร็กซ์ได้แบบ Real Time เลยครับ
เทคนิคในการดูตะกร้าค่าเงินฟอเร็กซ์
- สกุลเงินที่มีน้ำหนักมากกว่า +/- เกิน 0.05% เมื่อเทียบกับ USD จะถือเป็นค่าเงินที่มีโอกาสวิ่งแรงสูงไม่ว่าจะขึ้นหรือลง
- หากสกุลเงินมีน้ำหนัก +0.05% ขึ้นไป = มีโอกาสปรับตัวขึ้นอย่างรุนแรง
- หากสกุลเงินมีน้ำหนัก -0.05% ลงมา = มีโอกาสปรับตัวลงอย่างรุนแรง
- หากคู่เงินใดมีสกุลเงินที่อ่อนค่าหรือแข็งค่ามากที่สุดในตะกร้าค่าเงิน จะทำให้คู่เงินนั้นเกิดความเคลื่อนไหวอย่างรุนแรง (สอดคล้องกับข้อแรก)
- สำหรับการคาดการณ์แนวโน้มของคู่เงิน ให้ดูว่า สกุลเงินที่อ่อนค่าหรือแข็งค่ามากที่สุดในตะกร้าค่าเงินอยู่ข้างหน้าหรือข้างหลัง
- หากสกุลเงินดังกล่าวอยู่ข้างหน้า = มีโอกาสปรับตัวขึ้นอย่างรุนแรง
- หากสกุลเงินดังกล่าวอยู่ข้างหลัง = มีโอกาสปรับตัวลงอย่างรุนแรง
ภาพแสดงตัวอย่างตะกร้าค่าเงิน
ภาพตะกร้าค่าเงินจากเว็บไซต์ Finviz
1. วิธีวัดความแข็งค่าและอ่อนค่า
จากภาพตัวอย่าง คือ ตะกร้าค่าเงินที่มีดอลลาร์สหรัฐ (USD) เป็นสกุลเงินถ่วงน้ำหนัก ซึ่งคุณสามารถหาความอ่อนค่าและแข็งค่าของสกุลเงินอื่นได้ ดังนี้
- สกุลเงินที่มีการแข็งค่ากว่า USD จะอยู่ทางซ้ายมือ นั่นคือ GBP, JPY และ AUD ตามลำดับเปอร์เซ็นต์
- สกุลเงินที่มีการอ่อนค่ากว่า USD จะอยู่ทางขวามือ นั่นคือ CHF, NZD, CAD และ EUR ตามลำดับเปอร์เซ็นต์
2. วิธีวิเคราะห์แนวโน้มของคู่เงิน
จากภาพตัวอย่าง สามารถนำไปพิจารณาเพื่อเป็นแนวทางในการเลือกคู่เงินที่ได้เปรียบในการเทรด และคาดการณ์แนวโน้มของคู่เงินในตะกร้าได้ ดังนี้
คู่เงิน | แนวโน้มที่คาดการณ์ |
AUDJPY | แนวโน้มขาขึ้น (Uptrend) |
AUDUSD | แนวโน้มขาขึ้น (Uptrend) |
AUDCAD | แนวโน้มขาขึ้น (Uptrend) |
EURUSD | แนวโน้มขาลง (Downtrend) |
EURAUD | แนวโน้มขาลง (Downtrend) |
EURCHF | แนวโน้มขาลง (Downtrend) |
CADCHF | แนวโน้มขาลง (Downtrend) |
CADJPY | แนวโน้มขาลง (Downtrend) |
📢 เทรดเดอร์ส่วนใหญ่มักจะให้ความสำคัญกับสกุลเงินที่อ่อนค่าและแข็งค่ามากที่สุดในตะกร้าค่าเงินเท่านั้น โดยให้คำนึงถึง % ของน้ำหนักร่วมด้วย (ถ้า +/- เกิน 0.05% ก็น่าสนใจครับ)
⚠ คุณควรพิจารณาปัจจัยอื่น ๆ ที่อาจส่งผลต่อคู่เงินร่วมด้วยโดยเฉพาะข่าวสำคัญ เนื่องจากอาจทำให้คู่เงินเกิดความผันผวนขึ้นได้ นอกจากนี้ คุณควรใช้อินดิเคเตอร์หรือเทคนิคอื่น ๆ เพื่อยืนยันสัญญาณการเข้าซื้อ-ขายให้ชัดเจนขึ้น
. . . . . . . . . . . . . . .
สรุปเกี่ยวกับตะกร้าค่าเงิน Forex
ตะกร้าค่าเงิน Forex คือ การรวมสกุลเงินหลักต่าง ๆ ที่มีการถ่วงน้ำหนักต่างกัน เพื่อวัดความแข็งค่าหรืออ่อนค่าของสกุลเงินนั้น ๆ และใช้ดู Correlation ของสกุลเงิน ซึ่งตะกร้าค่าเงินมีประโยชน์ทั้งในด้านการลงทุนและการตรึงค่าเงินของรัฐบาล
อย่างไรก็ตาม ตัวเลขที่แสดงในตะกร้าค่าเงินเป็นเพียงภาพรวมในปัจจุบันเท่านั้น ดังนั้น คุณสามารถนำไปประกอบการพิจารณาเพื่อวิเคราะห์แนวโน้มตลาดได้ระดับหนึ่ง แต่ควรใช้อินดิเคเตอร์เพื่อยืนยันสัญญาณเข้าซื้อขายครับ
*หมายเหตุ: การลงทุนทุกประเภทมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาให้ดีก่อนตัดสินใจทุกครั้ง และบทความนี้เป็นเพียงการให้ความรู้เท่านั้น
อ่านบทความเพิ่มเติม: สาระน่ารู้
วิเคราะห์ราคาทองคำรายวัน: วิเคราะห์ราคาทองคำ และ Facebook Page