เมื่อไม่นานนี้ได้มีผู้ถือเหรียญ Ethereum รายหนึ่งสูญเสียเงินไปเกือบ 310 ETH จากการทำธุรกรรม Stoner Cats NFTs ที่ล้มเหลว ทำให้สูญเสียเงินทั้งหมดคิดเป็นมูลค่าอยู่ที่ประมาณ 700,000 ดอลลาร์หรือประมาณ 22.4 ล้านบาท
เกิดอะไรขึ้นกันแน่?
เพื่อให้เข้าใจสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ผู้เชี่ยวชาญทางด้าน Defi และ NFT ที่ใช้ชื่อใน Twitter ว่านาย “@0xWave” ได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า ผู้ใช้ที่สูญเสีย ETH ไปนั้นเขาได้ตั้งค่า Gas Limit สูงไม่มากพอ ซึ่งทำให้ธุรกรรมของเขาถูกทิ้งให้ติดอยู่ในสถานะ limbo
“ในกรณีนี้ Gas limit ไม่ได้ตั้งไว้สูงมากพอที่จะครอบคลุมทุกขั้นตอนในการทำธุรกรรม ดังนั้นธุรกรรมจึงล้มเหลว อย่างไรก็ตามธุรกรรมจะไม่ล้มเหลวจนกว่าค่า Gas จะหมด นั้นหมายความว่า ~100% ของค่า Gas จะถูกใช้จริงแม้ว่าการทำธุรกรรมจะไม่สำเร็จก็ตาม”
เช่นเดียวกันกับ Ethereum ผู้ใช้จะยังคงถูกเรียกเก็บค่าธรรมเนียม แม้ว่าการทำธุรกรรม “จะมีค่า Gas ไม่เพียงพอก็ตาม” ปัญหาเดียวกันนี้ได้กลายเป็นประเด็นที่ถกเถียงกันอย่างมากในช่วงฤดูร้อนปีที่แล้ว เมื่อค่าธรรมเนียม Gas พุ่งขึ้นทะลุ 710 gwei
ย้อนกลับไปในตอนนั้น สาเหตุของปัญหาคือความคลั่งไคล้ DeFi เนื่องจากมีผู้ใช้จำนวนมากจนล้นเครือข่าย เนื่องจากทุกคนคาดหวังว่าจะสามารถเข้ามาสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำจากเทคโนโลยีใหม่นี้
ราคา Gas ที่เพิ่มสูงขึ้นเป็นผลจากความสามารถในการปรับตัวที่ไม่ดีของ Ethereum Blockchain ซึ่งมักจะเกิดขึ้นเมื่อจำนวนธุรกรรมเข้าใกล้ความจุที่จำกัดของเครือข่าย ในสถานการณ์นั้น มันจะมีการแข่งขันสำหรับการทำธุรกรรมที่จะเขียนลงไปในบล็อกเพิ่มสูงขึ้น และผู้ใช้จะแข่งกันเพิ่มค่าธรรมเนียม Gas เพื่อให้ตัวเองได้รับการจัดลำดับความสำคัญในการทำธุรกรรมก่อน