ทุกคนคงทราบดีกันอยู่แล้วใช่ไหมครับว่าในการลงทุนเราไม่สามารถที่จะหลีกเลี่ยงความเสี่ยงได้ แต่ความเสี่ยงนั้นเราสามารถควบคุมได้ โดยนอกจากการจัดการพอร์ตการลงทุนให้ดีแล้ว ยังมีอีกหนึ่งวิธีนั่นก็คือการใช้ Stop Loss หรือจุดตัดขาดทุน ที่จะสามารถช่วยปกป้องเงินทุนของเราได้นั่นเองครับ
มีเหตุผลมากมายที่เราควรใช้ Stop Loss ในพอร์ตของเราเพื่อป้องกันไม่ให้พอตแตกเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่ดีมากสำหรับเทรดเดอร์ทุกคนเลยครับ เพราะตลาดสามารถผันผวนได้ตลอดเวลา หากเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน เช่น เวลาเราหลับ ราคาอาจเกิดลงมามากจนพอร์ตเราแตกไปเลยก็ได้ ถ้าหากเราไม่ตั้ง Stop Loss ไว้ คงอันตรายมากเลยนะครับ ซึ่ง Stop Loss นั้นมีอยู่หลายรูปแบบ วันนี้พี่โบ้จะมาบอกเทคนิคการใช้ Stop Loss ให้เหมาะสมกับสถานการณ์และการลงทุนที่แตกต่างกันออกไปครับ
Time Stop
เป็นวิธีการตัดขาดทุนที่อ้างอิงจากเวลาเป็นหลัก ในภาวะ Sideway แบบแคบ หมายถึง เวลาที่ราคาหุ้นไม่ไปตามแนวโน้มที่เราต้องการ แต่ก็ไม่ได้ปรับตัวลงจนถึงตัดขาดทุน เราจะเสียโอกาสในการลงทุน เพราะการถือหุ้นที่ไม่ขยับไปไหนเท่ากับว่าเราต้องเสียเวลาในการถือหุ้นนั้นไปเรื่อยๆ ดังนั้นการใช้ Stop Loss ในรูปแบบนี้ จะช่วยป้องกันการสูญเสียโอกาสในเวลาที่หุ้นไม่ขยับ แต่หากจับจังหวะผิดพลาดแล้ว การใช้ Stop Loss รูปแบบนี้ อาจทำการป้องกันไม่ได้ครับ ดังนั้นจะต้องอาศัยประสบการณ์และความเข้าใจลักษณะของตลาดเข้ามาช่วยด้วย
Percentage Stop
หากพูดง่ายๆ ก็คือการกำหนดว่าเราจะยอมขาดทุนกี่ % ของเงินทุนที่ลงไปนั่นแหละครับ ซึ่งข้อดีของการใช้ Stop Loss แบบนี้จะทำให้เราทราบว่าการซื้อหุ้นในแต่ละครั้งมีความเสี่ยงสูงสุดเท่าไหร่ ช่วยให้เราบริหารจัดการเงินทุนได้ง่ายขึ้มากเลยครับ
Volatility Stop
จุดเด่นของ Volatility Stop คือการรักษากำไรที่เกิดขึ้นไว้ การใช้ Stop Loss ในรูปแบบนี้ จะนำความผันผวนของราคามาช่วยในการตัดสินใจ โดยการเคลื่อนจุดตัดขาดทุนไปตามแนวโน้มการเคลื่อนไหวของราคา เช่น หุ้นที่เราซื้อมีราคาวิ่งไปตามแนวน้อมที่เราคาดการณ์ไว้ แต่ตามธรรมชาติความผันผวนมากเกิดขึ้นอยู่เสมอ เราจึงกำหนดจุดขายไว้ เพื่อรักษากำไรที่เกิดขึ้น โดยจะใช้รวบกับเครื่องมือ ATR (Average True Range) เป็นเครื่องมือที่ช่วยระบุระยะของความผันผวนในช่วงเวลาที่กำหนด ทำให้เราสามารถคาดการณ์ได้ว่าราคาของหุ้นนั้นมีโอกาสจะแกว่งตัวขึ้นลงในช่วงประมาณไหนนั่นเองครับ
Chart Stop
คือ การใช้แนวรับเป็นจุดในการตัดขาดทุน กำหนดจากจุดราคาที่มีการย้ำซ้ำๆ จนสามารถสังเกตเห็นได้ว่าเป็นจุดที่ราคามักจะกลับทิศ หากราคาปรับตัวลงไปตามจุดนี้เราก็จะขายตัดขาดทุนออกไป
นี่ก็เป็นเทคนิคการใช้ Stop Loss ที่พี่โบ้รวบรวมมาให้เพื่อนๆ ให้เพื่อนๆ นำไปปรับใช้ในพอร์ตของตนเองอย่างเหมาะสมนะครับ การใช้ Stop Loss เป็นสิ่งที่ดีมาก แต่ก็ต้องใช้ให้ถูกตามสถานการณ์เช่นกัน ยังไงอย่าลืมไปศึกษาเพิ่มเติมกันด้วยนะครับ แล้วเพื่อนๆ จะไม่มีโอกาสพอร์ตแตกอย่างแน่นอน
อ่านบทความเพิ่มเติม: สาระน่ารู้
วิเคราะห์ราคาทองคำรายวัน: วิเคราะห์ราคาทองคำ และ Facebook Page