Market Watch จับตาดูโลก ประจำวันที่ 4 กรกฏาคม 2565

Table of Contents

Market Watch จับตาโลกวันนี้ : เมื่อวันศุกร์ (1 ก.ค.) ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดดีดตัวขึ้นอย่างมาก ท่ามกลางการซื้อขายที่เบาบาง เนื่องจากนักลงทุนได้เข้าซื้อหุ้นในวันแรกของช่วงครึ่งปีหลังก่อนวันหยุดยาวในช่วงสุดสัปดาห์นี้ ในส่วนของตลาดหุ้นยุโรปปิดทรงตัว โดยการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มปลอดภัยได้บดบังแรงขายหุ้นกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์ และกลุ่มที่เกี่ยวกับสินค้าโภคภัณฑ์

▪ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดดีดตัวขึ้นอย่างมากในวันศุกร์ (1 ก.ค.) ท่ามกลางการซื้อขายที่เบาบาง เนื่องจากนักลงทุนได้เข้าซื้อหุ้นในวันแรกของช่วงครึ่งปีหลังก่อนวันหยุดยาวในช่วงสุดสัปดาห์นี้ โดยตลาดปิดทำการในวันจันทร์ที่ 4 ก.ค. เนื่องในวันชาติสหรัฐฯ

Dow Jones +1.05%

S&P500 +1.06%

Nasdaq +0.90%

หุ้นทั้ง 11 กลุ่มในดัชนี S&P500 ปิดบวก โดยกลุ่มสาธารณูปโภคปรับตัวขึ้นมากที่สุดเมื่อคิดเป็นเปอร์เซ็นต์

แต่หุ้นบริษัทผลิตชิปยังคงร่วงลงอย่างหนัก หลังจากบริษัท ไมครอน เทคโนโลยี เตือนเกี่ยวกับอุปสงค์ที่ชะลอตัว โดยหุ้นไมครอนร่วงลง 2.9% และดัชนีหุ้นกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์ที่ตลาดฟิลาเดลเฟียร่วงลง 3.8%

นักลงทุนจับตาการเปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 2 ของบริษัทจดทะเบียน, รายงานการจ้างงานเดือนมิ.ย. ของสหรัฐฯ และการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) ในเดือนก.ค. นี้

นักวิเคราะห์คาดว่า แนวโน้มผลกำไรของบริษัทจดทะเบียนจะได้รับผลกระทบจากเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้น และอุปสงค์ของผู้บริโภคที่ลดลง

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่มีการเปิดเผยในวันศุกร์นั้น เอสแอนด์พี โกลบอล เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายของสหรัฐฯ ปรับตัวลงสู่ระดับ 52.7 ในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 2 ปี หรือนับตั้งแต่เดือนก.ค. 2563 และต่ำกว่าระดับ 57.0 ในเดือนพ.ค. แต่สูงกว่าตัวเลขเบื้องต้นที่ระดับ 52.4

ดัชนี PMI ได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของคำสั่งซื้อใหม่ ท่ามกลางการลดลงของอุปสงค์จากลูกค้าต่างประเทศ ขณะที่ความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจร่วงลงแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนต.ค. 2563 แม้ว่าการจ้างงานปรับตัวขึ้น อย่างไรก็ตาม ดัชนี PMI ยังคงอยู่เหนือระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ถึงการขยายตัวของภาคการผลิตของสหรัฐฯ

ส่วนสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐฯ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐฯ ดิ่งลงสู่ระดับ 53.0 ในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปี หรือนับตั้งแต่เดือนมิ.ย. 2563 และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 54.9 จากระดับ 56.1 ในเดือนพ.ค.

ดัชนีภาคการผลิตได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของคำสั่งซื้อใหม่ ซึ่งหดตัวลงเป็นครั้งแรกในรอบ 2 ปี ขณะที่การจ้างงานปรับตัวลงเช่นกัน อย่างไรก็ดี ดัชนียังอยู่สูงกว่าระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ว่า ภาคการผลิตของสหรัฐฯ ยังคงมีการขยายตัว

▪ ตลาดหุ้นยุโรป ปิดทรงตัวในวันศุกร์ (1 ก.ค.) โดยการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มปลอดภัยได้บดบังแรงขายหุ้นกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์ และกลุ่มที่เกี่ยวกับสินค้าโภคภัณฑ์ ขณะที่นักลงทุนเตรียมพร้อมสำหรับการที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 10 ปี ในเดือนก.ค. นี้ โดยข้อมูลที่เปิดเผยในวันศุกร์บ่งชี้ว่า เงินเฟ้อของยูโรโซนเพิ่มขึ้นเกินคาด และแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์อีกครั้งในเดือนมิ.ย. ซึ่งสนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ ECB เนื่องจากอาจใช้เวลาหลายเดือนกว่าอัตราเงินเฟ้อจะแตะระดับสูงสุด

Stoxx Europe 600 -0.02%

CAC-40 +0.14%

DAX +0.23%

FTSE 100 -0.01%

ดัชนี STOXX 600 ร่วงลง 1.4% ในสัปดาห์นี้ และดิ่งลงมากกว่า 16% แล้วในปีนี้ เนื่องจากนักลงทุนวิตกว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางเพื่อสกัดเงินเฟ้อ อาจส่งผลกระทบต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจ

นอกจากนี้ การชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนและการที่รัสเซียบุกโจมตียูเครนนั้น ทำให้นักลงทุนหลีกเลี่ยงการเข้าลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง

หุ้นกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์ ร่วงลง 2.9-5.4% หลังบริษัทไมครอน เทคโนโลยีซึ่งเป็นบริษัทชิปหน่วยความจำของสหรัฐฯ เปิดเผยแนวโน้มธุรกิจที่อ่อนแอกว่าคาดเมื่อวันพฤหัสบดี (30 มิ.ย.)

หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีร่วงลง 2.0%, กลุ่มเหมืองแร่ร่วง 2.5% รวมถึงหุ้นกลุ่มน้ำมันและก๊าซร่วงลงตามราคาสินค้าโภคภัณฑ์จากความวิตกเกี่ยวกับการขยายตัวของเศรษฐกิจ

อย่างไรก็ตาม แรงซื้อหนุนหุ้นกลุ่มปลอดภัยปรับตัวขึ้น เช่น กลุ่มสาธารณูปโภค, สินค้าอุปโภคบริโภค, เทเลคอม และเฮลท์แคร์

Social Share
Facebook
Twitter
Picture of Traderbobo
Traderbobo

นักลงทุนในตลาด Forex และสินทรัพย์ทางการเงินด้วยประสบการณ์กว่า 10 ปี มุ่งเน้นการนำเสนอเนื้อหาที่เข้าใจง่าย พร้อมแบ่งปันความรู้และกลยุทธ์การเทรด เพื่อช่วยให้คุณประสบความสำเร็จในโลกการเงิน เหมาะสำหรับทั้งเทรดเดอร์มือใหม่และมืออาชีพ

บทความน่าสนใจ
Adsense
Table of Contents
บทความน่าสนใจ
Adsense